ข่าว ธุรกิจออนไลน์ 100%

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มันอยู่ที่"วิธีคิด" จริง ๆ



ทุกเรื่องในชีวิต แค่"วิธีคิดผิด" ผลลัพธ์ ก็ย่อมผิดเป็นธรรมดา
ถึงกระนั้นก็ยังมีคนคิดอย่างเดิม ทำอย่างเดิม แต่คาดหวังผลลัพธ์ ใหม่ ๆ


แล้วคุณก็จะเห็นอีกปฏิกิริยาหนึ่งคือ ไม่มีใครศึกษาวิธีคิดของคนอื่น เพราะ คิดว่าวิธีของตนเองถูกที่สุด
มันก็เหมือนการเมืองนั่นแหละ "คนคิดต่างคือโง่! "




คุณคิดแบบ"ผึ้ง"หรือ"แมลงวัน"



ถ้าหากคุณจับเอาผึ้ง 6 ตัวใส่ในขวด และจับแมลงวัน 6 ตัวเช่นกัน ใส่ในอีกขวด

จากนั้นค่อย ๆ วางขวดให้นอนลง โดยหันก้นขวดไปทางหน้าต่าง
คุณจะพบว่าผึ้งพยายามที่จะบินออกทางก้นขวด จนกระทั่งมันตายจากการขาดอากาศหรืออาหาร
ในขณะที่แมลงวันนั้น จะสามารถบินออกมาทางฝั่งคอขวด ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับก้นขวดซึ่งหันไปทางหน้าต่าง

#เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้...
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผึ้งเป็นสัตว์ที่ฉลาด มีองค์ความรู้ พวกมันรู้ว่าการบินไปในทิศทางที่มีแสงสว่าง
จะเป็นทางออกจากรัง โพรงไม้ ฯลฯ แต่เมื่อต้องมาอยู่ในขวด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผึ้งไม่เคยเผชิญมาก่อน
มันก็ยังคงเชื่อในความคิดแบบเดิมที่มีมาตลอด คือ ต้องบินออกทางแสงสว่างเท่านั้น
แต่สำหรับแมลงวัน มันเป็นสัตว์ที่ไม่มีความคิดเป็นตรรกะ ดังนั้นเมื่อถูกจับไว้ในขวด มันจึงบินชนผนังขวดจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง
จนในที่สุดก็พบทางออก

การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า #คนฉลาดรู้มาก ก็สามารถที่จะล้มเหลวได้เพราะความรู้มาก ในขณะที่ผู้ไม่รู้ก็อาจจะประสบความสำเร็จจากการลองทำในสิ่งที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน
ปล. จะว่าไปแล้ว เรื่องใกล้ตัวที่สุดสำหรับฉัน คือ การได้เห็นอาจารย์สอนบริหารธุรกิจหลายท่าน #ล้มเหลวในการประกอบธุรกิจ ทั้ง ๆ ที่ทฤษฎีแน่นมาก ในขณะที่คนประสบความสำเร็จหลายคน ไม่ได้รู้ในทฤษฏีต่าง ๆ มากมายเลย




8 ข้อคิดดี ๆ ฝึกหาความสุข


1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
 หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป

2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระไม่มากก็น้อย ยกเว้นความดี

3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ หมายความว่า อย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง

4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือพูดแต่สิ่งที่ดีๆ หมายความว่าถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ และขุ่นมัว

5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุกข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตา


6.ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า "เรามาถูกทางแล้ว" แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลก


7.ฝึกให้ตัวเองพ้นจากความเป็นขี้ข้าของเงิน หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงินมาก เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน


8. ฝึกให้ตัวเองเสียสละ และยอมเสียเปรียบ หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเสียเปรียบผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็น ใครก็ตามที่บ้าความถูกต้อง บ้าเหตุบ้าผล ไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลย ไม่ช้า คนๆนั้นก็จะเป็นบ้าสติแตก กลายเป็นคนที่ถูกทุกอย่างแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น





วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คุณมีเงิน แต่คุณมีค่าไหม?

การบรรยายส่วนหนึ่งของหลี่เหลียนเจี๋ยในหัวข้อ “หลักการรักษาสุขภาพ”
***************************************************************************

ฟู่เปียวมีเงินมากกว่าคุณ เปลี่ยนไต 2 ครั้งสุดท้ายก็ลาจากโลกไป

เหม่ยเยี่ยนฟังมีเงินมากกว่าคุณ จ้างหมอเฉพาะทางทั้งในและนอกประเทศ สุดท้ายมะเร็งปากมดลูกก็ทำให้เธอลาจากโลกนี้ไป

เฉินเสี่ยวสวี้มีเงินมากกว่าคุณ สุดท้ายมะเร็งเต้านมก็พรากเธอไปจากโลกนี้
หวังจวินเหยามีเงินมากกว่าคุณ 3500 ล้านซื้อชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ได้ สุดท้ายเขาก็จากโลกนี้ไป

จางเซิงอวี๋ประธานกรรมการบริษัทถงเหรินถังแห่งนครปักกิ่ง มีความเชี่ยวชาญการรักษาโรคมากกว่าคุณ อยู่ๆก็หัวใจวายเฉียบพลัน ตายจากโลกนี้ทั้งๆที่อายุแค่ 39 ปี

หนันหมินประธานกรรมการบริษัทจงฟากรุ๊ปแห่งนครเซี่ยงไฮ้ จากโลกนี้ไปด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก ทั้งๆ ที่อายุแค่ 37 ปี

ขอให้คุณระลึกไว้
1. อย่าเอาแรงกดดันมาเป็นแรงขับเคลื่อน ใช้ร่างกายจนเกินกำลัง เท่ากับทำร้ายร่างกาย — โง่เขลาเป็นที่สุด
2. อย่าลืมว่าสุขภาพดีคือต้นทุน ร่างกายไม่แข็งแรง คุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างไร — เสียหายเป็นที่สุด
3. อย่าเห็นชื่อเสียงและลาภยศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ชื่อเสียงลาภยศเปรียบดังหมอกควัน สุดท้ายก็มลายสูญ — จริงแท้เป็นที่สุด
4. #อย่าคิดว่าหมอจะช่วยชีวิตคุณได้ หมอที่ดีคือตัวคุณ ดูแลชีวิตดีกว่าให้ใครมาช่วยชีวิต — ถูกต้องเป็นที่สุด
5. อย่าคิดว่าอุทิศให้แล้วจะต้องได้รับตอบแทนเสมอไป ให้อะไรกับใครอย่ารอให้เขาทดแทนบุญคุณ — วิเศษเป็นที่สุด
6. อย่าคิดว่ารับราชการแล้วจะเหนือกว่าชาวบ้าน ถึงเวลาเกษียณก็ต้องเป็นชาวบ้านเหมือนเดิม — แม่นยำเป็นที่สุด
7. อย่ามองข้ามคนที่มีบุญสัมพันธ์กับคุณ เมื่อคุณตกอับ คุณจึงจะรู้ว่าใครบ้างที่ไปจากคุณ และตอนนั้นคนรู้ใจยิ่งหายาก — เสียใจและเสียดายเป็นที่สุด
8. อย่าเห็นการทักทายของใครเป็นสิ่งน่ารำคาญ คนที่ส่งข้อความให้คุณเสมอเพราะคุณยังอยู่ในใจเขา — แน่นอนเป็นที่สุด
..................................................
เป็นคำถามที่น่าคิด
คุณมีเงิน แต่คุณมีค่าไหม?
เรามักแสวงหาสิ่งที่เราคิดมีค่ามากที่สุดในชีวิต
แต่สุดท้าย ทุกคนหนีไม่พ้นอนิจจัง
หมั่นคิดดี พูดดี ทำดีนะครับ
#คุณค่าของชีวิตสร้างได้โดยไม่ต้องใช้เงิน!


วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โลกนี้ที่อยู่รอดได้ ก็เพราะเหตุนี้

คนโง่ มักคิดหรือเชื่อ ว่าตนเองฉลาด 
แทบไม่เคยพลาด ไม่เคยโง่
จะพลั้งไปบ้าง ก็เพราะคนอื่นเป็นสาเหตุ

ส่วนคนฉลาด มักจะยอมรับได้
ว่าตนเองโง่ได้ โง่เป็น พร้อมจะเรียนรู้
และพร้อมจะพลาดได้เช่นเดียวกัน

โลกนี้ที่อยู่รอดได้ ก็เพราะเหตุนี้ 

เหตุที่แม้ว่าคนโง่จะกอดรัดความโง่เอาไว้
อย่างเหนียวแน่น
แต่คนฉลาดก็ไม่เคยพยายามไปแย่งความโง่มาครอง
ไม่เคยพยายามทะเลาะเบาะแว้งกับคนโง่ๆ แต่อย่างใด.

แม้ว่าการกระทำเช่นนั้น จะทำให้คนโง่ขยายตัว
และใช้พื้นที่มากขึ้น และมากยิ่งขึ้น
กระทั่งแทบจะกินพื้นที่ส่วนใหญ่ ไปแล้วก็ตาม.