ข่าว ธุรกิจออนไลน์ 100%

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Passive income คืออะไร


ถ้าให้แปลตรงตัว Passive Income ก็คงแปลได้ว่า "รายได้เชิงรับ" เอาล่ะสิ ยิ่งแปลเป็นไทยยิ่ง "งง" กันเข้าไปใหญ่ ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกซักรอบว่า รายได้เชิงรับก็คือ"รายได้ที่ไม่ได้มาจากการที่เราออกแรงทำงานโดยตรง" จินตนาการง่ายๆว่า ในวันใดที่เราไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ยังมีเงินไหลเข้ากระเป๋าเราอยู่อย่างสม่ำเสมอ เงินก้อนนั้นแหละค่ะที่เราถือว่าเป็น Passive Income หรือ "รายได้เชิงรับ"
คำถามวัดความเข้าใจ : เงินเดือนของข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท เป็น Passive Income หรือไม่?
ติ๊กต่อก... ติ๊กต่อก...
คำตอบคือ "ไม่ใช่" เพราะเงินเดือนเหล่านั้นเกิดจากการทำงานในแต่ละเดือนเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนมา ดังนั้นเงินเดือนจึงเป็น Active Income (รายได้เชิงรุก) ซึ่งเมื่อใดที่เราหยุดทำงาน หน่วยงานราชการหรือบริษัทที่เป็นนายจ้างก็ย่อมหยุดจ่ายเงินเดือนไปโดยปริยาย รายได้ของเราก็จะหดหายไปทันที

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เผย..ธุรกิจมาแรงปี 59 พร้อมแนะแนวทางแก่ผู้ประกอบการยุคใหม่


Top up 2 Rich online Team
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นักวิชาการวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยกลุ่มธุรกิจมาแรงในปี 2559 คือกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการเงิน สุขภาพ และนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร ฉะนั้นหากผู้ประกอบการต้องการปรับตัวให้อยู่รอดในสภาวะปัจจุบันผู้ประกอบการต้องประยุกต์ใช้หลักการของสตาร์ทอัพเข้าสู่ธุรกิจนั่นคือการไม่หยุดนิ่งคิดค้นสิ่งใหม่ๆตลอดเวลาและการเพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าสู่ธุรกิจโดยผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ4ประการ คือ มุ่งมั่นตั้งใจ ริเริ่มสร้างสรรค์ วางแผนธุรกิจเป็น และกล้าเสี่ยงที่จะลงทุน
นายกิตติชัย ราชมหา อาจารย์ประจำภาควิชาผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนกำลังนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้ตลาดสินค้าและบริการเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาและขยับขยายธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มาแรงในยุคปัจจุบัน คือกลุ่มธุรกิจที่มีการประยุกต์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลักสำคัญเพื่อพัฒนาสินค้า บริการ หรือตัวแบบธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ธุรกิจอยู่รอด และเติบโตได้แบบก้าวกระโดดในอนาคต หรือที่มักคุ้นหูในชื่อ “สตาร์ทอัพ” (StartUp) นั่นเอง
I T S.ระบบของ Top Up 2 Rich 
ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตลาดภายใต้สภาวะแวดล้อมการแข่งขันในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วรวมถึงการเน้นสร้างความสะดวกสบายของผู้บริโภคผ่านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเช่นการเพิ่มช่องทางทำการตลาดผ่านแอพพลิเคชั่น(Application)ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคในปัจจุบันโดยธุรกิจเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากนักธุรกิจหน้าใหม่ แต่เป็นธุรกิจที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน ดังนั้น การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องคิดค้นและพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้เกิด “ความสดใหม่” อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่สร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือตัวแบบธุรกิจ จะสนับสนุนให้ธุรกิจก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของอุตสาหกรรมนั้นๆได้ไม่ยาก โดยกลุ่มธุรกิจที่จะมาแรงเป็นพิเศษในปี 2559 นั้น มี 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่