เปรียบเทียบจุดเด่นคอนเทนต์วิดีโอสั้น
จาก
IG Reels, TikTok และ YouTube Shorts
ในช่วงปี
2021 ที่ผ่านมานี้ เราจะเห็นได้ว่าความนิยมของคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ
ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกระแสความฮิตนี้ได้เริ่มมาจากแพลตฟอร์มมาแรงอย่าง
1. Tiktok ที่มียอดผู้ใช้งานแบบต่อเนื่อง
(Monthly Active Users) พุ่งสูงในต้นปี 2021 อยู่ที่ 689 ล้านคน ต่อเดือน
ตามมาด้วย Instagram ที่ได้ปล่อยตัวคอนเทนต์ในรูปแบบ
2. Instagram
3. Reels และ
4. Youtube Shorts ตามมาค่ะ
ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นๆ ที่ส่วนใหญ่จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ
1 นาทีนั่นเองค่ะ ก่อนที่เราจะมาทำความเข้าใจความแตกต่างของคอนเทนต์นี้แต่ละแพลต์ฟอร์ม
เรามาทำความเข้าใจถึงพื้นฐานของคอนเทนต์วิดีโอแบบสั้นกันดีกว่าค่ะว่ามีรูปแบบอย่างไรบ้าง
ทำไม
Short VDO form ถึงเป็นที่นิยม
รูปแบบของวิดีโอสั้นๆ
ได้เข้ามาเปลี่ยนวิธีการในการนำเสนอบน Social Media ที่ทำให้เราสามารถเข้าใจข้อมูลนั้นๆ
ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
ประกอบกับความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสาร ความสนุกสนาน เสียงเพลง และเทรนด์ต่างๆ
ที่ทำให้เกิดการแข่งขันบนโลกออนไลน์
จึงทำให้รูปแบบของวิดีโอสั้นๆ สามารถสื่อสารถึงกลุ่มคนได้กว้างมากยิ่งขึ้น
โดยรูปแบบของการสื่อสารของวีดีโอสั้นๆนี้ สามารถทำลายรูปแบบการสื่อสารในแบบเดิมๆ
ได้ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ได้กระโดดเข้ามาสื่อสารในรูปแบบของวิดีโอสั้นๆ
สามารถทำให้ผู้บริโภครู้สึกใกล้ชิด และมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น
ทั้งในแง่ของการเลือกใช้ Influencer หรือ รูปแบบของ Challenge ที่ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารออกมาในอีกแง่มุมได้อย่างน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
จึงถือเป็นช่องทางในการสร้าง Awareness ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ ในส่วนของแพลตฟอร์มที่รองรับคอนเทนต์วิดีโอในรูปแบบสั้นๆ
มีหลายแพลตฟอร์มด้วยกันค่ะ
ในวันนี้ผู้เขียนจึงได้นำทั้ง 3 แพลตฟอร์มมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างและความเหมาะสม
มาฝากทุกท่านกันค่ะ
รูปแบบคอนเทนต์บน
Tiktok
Tiktok เป็นแอพพลิเคชั่นสัญชาติจีน
ที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ในปี 2017 และเริ่มโด่งดังในระดับโลกในปี
2019
โดยมียอดดาวน์โหลดพุ่งสูงถึงหนึ่งพันล้านครั้งค่ะ
ซึ่งในประเทศไทย Tiktok เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี
2020
เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันค่ะ ข้อมูลจาก Google Trend แสดงจำนวนการค้นหาด้วยคำว่า Tiktok ใน Google Search ตั้งแต่ปี 2019-2021 ในประเทศไทย กลุ่มผู้ใช้งานบน Tiktok
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์มคือ
กลุ่มผู้ใช้งานค่ะ โดยกลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่บน Tiktok อยู่ในกลุ่ม Gen Y และ GEN Z โดยมีอายุส่วนใหญ่อยู่ที่ 19-29 ปี และเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายค่ะ (ข้อมูลจาก businessofapps) ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ TikTok มีแฮชแท็ก
Challenge
ใหม่ๆ
เกิดขึ้นให้ผู้ใช้งานได้ร่วมสนุกกันอยู่เสมอ
มีเพลงประกอบวิดีโอให้เลือก และ สามารถลิปซิงค์เสียงหรือนำเพลงจากคอนเทนต์อื่นๆ
บน Tiktok มาใช้ได้
สามารถ
Edit
วิดีโอได้ภายในแอพโดยมีทั้ง ฟิลเตอร์ แอฟเฟค
การใส่ Green Screen AR Effect และลูกเล่นต่างๆ
เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความน่าสนใจ
สำหรับผู้ที่สนใจสร้างสรรค์คอนเทนต์บน Tiktok สามารถดูไอเดียเพิ่มเติมได้ที่บทความ 7 เทคนิค เพิ่มความสร้างสรรค์ให้กับวิดีโอบน TikTok
อัพเดตปี 2021
TikTok
เหมาะกับธุรกิจแบบไหน
เป็นธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงอายุประมาณ 16 – 30 ปี
มีความต้องการเพิ่ม Brand awareness หรือ ความเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น
สามารถอธิบายสินค้าหรือบริการให้สามารถอยู่ในรูปแบบวีดีโอในระยะเวลาสั้นๆ
ได้
เป็นธุรกิจที่มีความเหมาะสมกับคอนเทนต์ประเภทให้ความสนุกสนาน หรือ
คอนเทนต์ในเชิงบวก
เป็นธุรกิจที่ต้องการทดลองสิ่งใหม่ๆ และ สนุกไปกับการทำเทรนด์ใหม่ๆ
บนแพลตฟอร์ม
IG
Reels
IG Reels เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่จาก
Instagram
ที่ถูกเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2020
เรียกได้ว่าเปิดตัวต่อจากกระแสความนิยมของ Tiktok
นั่นเองค่ะ IG Reels จึงถือเป็นคู่แข่งกับ Tiktok และมีความคล้ายคลึงกันค่ะ เนื่องด้วยรูปแบบของแพลตฟอร์ม Instagram
เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอคอนเทนต์ในแบบรูปภาพ
เป็นส่วนใหญ่ หากผู้อ่านท่านใดที่ใช้งาน Instagram กันเป็นประจำอยู่แล้วจะทราบดีว่า Influencer
บน Instagram ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอคอนเทนต์ภาพถ่าย ที่มีการคลุมโทนสีของภาพบนโปรไฟล์ให้ดูน่าสนใจ
องค์ประกอบและมุมของภาพที่มีความโดดเด่น และมีการตกแต่งภาพอย่างมีสไตล์นั่นเองค่ะ แน่นอนว่าผู้ใช้งานบน IG Reels เป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวกัน
เราจึงจะเห็นได้ว่าคอนเทนต์บน IG Reels จึงเน้นเป็นภาพถ่ายประกอบเสียงเพลง หรือวิดีโอสั้นๆ ที่มีการจัดมุมภาพและองค์ประกอบที่ลงตัวไปกับเสียงเพลงนั่นเองค่ะ
กลุ่มผู้ใช้งานบน IG Reels หลังจากที่เราได้ทราบถึงรูปแบบของคอนเทนต์บน
IG
Reels กันไปแล้ว
เรามาเจาะลึกไปถึงข้อมูลของผู้ใช้งานกันค่ะ กลุ่มผู้ใช้งานบน Instagram
ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ที่
18-29 ปี
โดยมีสัดส่วนสูงถึง 71% ค่ะ และมีสัดส่วนของเพศไม่แตกต่างกันมากนัก
โดยมีสัดส่วนของเพศชายอยู่ที่ 48.6 % และเพศหญิง 51.4 % ค่ะ (ข้อมูลจากbacklinko.com)
ภาพจาก backlinko.com ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ IG Reels มีความยาวของวิดีโออยู่ที่ 15 วินาทีไปถึงจน 60 วินาที สามารถแชร์ Reels
ลงไปใน
Story ได้โดยจะอยู่บน
Story
เป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยผู้ใช้งานท่านอื่นๆสามารถแชร์ Reels
ลงใน Story ได้ด้วยเช่นกัน จึงสามารถเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้รับชมใหม่ๆได้
มีฟิลเตอร์ให้สามารถเลือกใช้ได้ในจำนวนมาก โดยเป็นฟิลเตอร์เดียวกันที่ถูกใช้งานบน Story
ซึ่งฟิลเตอร์ต่างๆผู้ใช้งานสามารถสร้างขึ้นมาเอง
หรือเลือกใช้งานจากฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้ท่านอื่นๆ สร้างขึ้นมาได้ IG Reels เหมาะกับธุรกิจแบบไหน มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงอายุประมาณ 18
– 30 ปี มีกลุ่มเป้าหมายอยู่บน Instagram อยู่แล้วและต้องการเพิ่มช่องทางให้มีคนรู้จักมากยิ่งขึ้น
(เพิ่ม Brand Awareness) ที่ต้องการนำเสนอแบรนด์หรือนำเสนอสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ
YouTube
Shorts
Shorts เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ใน YouTube ที่พึ่งเปิดตัวในปีที่แล้ว โดยล่าสุดสามารถใช้งานในประเทศไทยไทยได้แล้ว
สำหรับฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มช่องทางในการมองเห็น หรือ
เข้าถึงผู้รับชมใหม่ๆ บน YouTube เพราะมีหลักการการทำงานคล้ายกับ TikTok และ Reels ค่ะ
กล่าวคือเป็นฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มมาภายในแอปบน YouTube โดยเป็นรูปแบบวิดีโอให้เราสามารถเลื่อนขึ้น-ลง ในการรับชมคอนเทนต์อื่นๆ ตามความสนใจของเรา
โดยคอนเทนต์ที่ขึ้นมาไม่จำเป็นต้องเป็นคอนเทนต์ของบุคคลที่เรากำลังติดตามอยู่
กลุ่มผู้ใช้งานบน YouTube กลุ่มผู้ใช้งานบน YouTube ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ที่ 18-25
ปี และ
ในส่วนของข้อมูลด้านเพศพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดยเป็นเพศชาย 62%
และ เพศหญิงเพียง 32% ค่ะ โดยอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจพบว่าผู้ใช้งานบน YouTube
ส่วนใหญ่เลือกใช้งานจากโทรศัพท์มือถือสูงถึง 70%
ค่ะ จึงเหมาะกับการรับชมคอนเทนต์บน Shorts
นั่นเองค่ะ ภาพจาก globalmediainsight.com ข้อแตกต่างของ
Youtube Shorts คลังเพลงที่มีขนาดใหญ่กว่า: โดยทั่วไปแล้ว YouTube มีคลังเพลงที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้ Shorts
ได้เปรียบกว่าแอปพลิเคชั่นอื่นๆ
เมื่อเปรียบเทียบกัน คือมีเพลงให้เลือกค้นหาในจำนวนที่มากกว่านั่นเองค่ะ ฟีเจอร์ Private : มีฟีเจอร์ Private ให้สามารถตั้งค่าผู้ใช้งานที่สามารถมองเห็นคอนเทนต์บน
Shorts
ได้
สามารถทำการแก้ไขวิดีโอหลังจากลงไปแล้วได้
Shorts เหมาะกับธุรกิจแบบไหน
ธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าหลักในวัยทำงานขึ้นไป เนื่องจากข้อแตกต่างที่ YouTube
มีคือ
สัดส่วนของผู้ใช้งานที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุที่มีจำนวนมากกว่า Instagram
และ
TikTok ธุรกิจที่มี
Media
บน Youtube อยู่แล้ว และ ต้องการเพิ่มการเข้าถึงผู้รับชมบน Youtube มากยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง TikTok, IG Reels และ YouTube Shorts ที่มา www.verticalriver.co
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น