1. อยากได้เงิน แต่ไม่ยอมที่จะเรียนรู้วิธีการสร้างเงิน ภาษาปาก คือ ขี้เกียจอ่านวิธีทำเงินโดยละเอียด เอาแต่มอง ผ่านตัวอักษร ซึ่งต่างจากคำว่าอ่านเพื่อความเข้าใจอย่างสิ้นเชิง เป็นสาเหตุความล้มเหลวตัวหลักที่สุด การรู้ การอ่าน อย่างผิวเผินย่อมทำงานได้อย่างจำกัด เมื่อไม่ได้ผลสมตามที่หวังไว้ และเบื่อหน่ายจนเลิกไปในที่สุด
2. ทำแบบมั่ว ๆ ไร้หลักเกณฑ์ตามที่เว็บหารายได้ต่าง ๆ ตั้งข้อกำหนดไว้ คิดว่ารูปแบบที่ต้นทาง หรือ เว็บนั้น บริษัทนั้น ๆ วางไว้ไม่ดีพอ จึงทำตามใจตนเอง แล้วกลายเป็นหลงทาง เสียเงิน เสียเวลาเปล่า ทั้งที่ กิจกรรม ของเว็บใหญ่ ๆ มักระดมความคิดจากระดับมันสมองของคนที่จัดว่าเก่ง หลายสมองรวมกัน ผมก็ไม่กล้าคิดว่า ตัวเอง เก่งกว่า คนเก่งจริง ๆ หลาย ๆ หัวรวมกันคิดระบบขึ้นมา
3. คิดเองและต่อต้านกิจกรรมเว็บงานนั้น ๆ เพราะคิดว่าตัวเก่งกว่า แต่บริษัทไม่ยอมจ่าย หรือ ยอมให้เขา หารายได้ ในรูปแบบที่ตนต้องการ เช่น บางแห่ง ห้ามสแปมเมล์ หรือส่งเมล์มั่วให้คนที่ไม่รู้จัก แต่หลาย ๆ คน คิดว่าทำ สแปม แล้วคนรู้จักเร็วและง่าย จึงทำ สุดท้ายก็ต้องโดน แบน และไม่จ่าย เพราะเป็นการหารายได้ เข้ากระเป๋าตัวเอง แต่ ชื่อเสียงเว็บ หรือบริษัทนั้น ๆ เสียหาย ซึ่งก็คือความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวของคน ๆ นั้นนั่นเอง ภาษิตโบราณเรียกว่า ทุบหม้อข้าวตัวเอง หรือตัดต้นมะม่วงกินลูก แทนที่จะค่อย ๆ สอยหรือปีนเก็บกิน
4. ทำๆ หยุด ๆ ไม่ต่อเนื่อง พอมองย้อนเวลา จึงคิดว่าตัวเองทำมานาน ลงมือทำเพียงเล็กน้อย อาจอาทิตย์ละหน สองหน เมื่อเวลาถึงเดือนจริง แต่ลงมือร่วมกิจกรรมจริง ๆ แทบไม่ถึง 10 ครั้งต่อเดือน ย่อมไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่มีความตั้งใจที่จะทำอย่างต่อเนื่อง ไม่จัดสรรเวลาให้งานนั้น ๆ อย่างจริงจัง เวลา 3 เดือน อาจเตะงาน หรือ กิจกรรมนั้นๆ จริงไม่ถึง 10 ครั้ง ๆ ละไม่ถึงชั่วโมง ก็เห็นมามากมาย แล้วนั่นคือกลุ่มผู้ล้มเหลวส่วนใหญ่ และที่มาก ยิ่งกว่า คือ มานะขยัน ทำเพียงช่วงแรกๆ ช่วงต้น ๆ ไม่กี่สัปดาห์ แล้วก็ละเลยปล่อยทิ้งในเวลาต่อมา ถ้าคิดว่าทำงานแล้ว ทำให้มันเป็นงานจริง ผลงานย่อมเกิด ซึ่งเป็นตรรกะศาสตร์ง่าย ๆ ต้องนับเวลาที่ลงมือทำงาน หรือ กิจกรรมนั้น ๆ ไม่ใช่นับเวลาที่สมัครงานนั้น ๆ เป็นตัวตั้ง เพราะรายได้เขานับที่ผลงาน ไม่ได้นับที่เวลาการสมัคร ว่า สมัครมานานเท่าไร
5. บ่อยครั้งที่ทำผิดกฎกติกาอย่างตั้งใจ แล้วถูกแบน ถูกลบแอคเคาท์ ถูกลบบัญชีออก เป็นสาเหตุที่ร้ายแรง และเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ในการหารายได้ออนไลน์ โดยเฉพาะ งานที่นับ ปริมาณคลิก หรือนับความถี่ ในการร่วมกิจกรรม เพื่อนับเป็นเปอเซนต์ ในการจ่าย คนโลภและตั้งใจโกง จะใช้โปรแกรมช่วย สร้างการร่วมกิจกรรมแบบ ไม่เป็นจริง เช่น การใช้ โปรแกรมคลิกป้ายโฆษณา ของเว็บคลิกต่าง ๆ ที่มักเรียกว่า บอท การใช้โปรแกรม ปั่นเพจเปิดหน้าเว็บ ตามเว็บที่นับการเปิดหน้าเว็บทั้งหลาย เมื่อถูกจับได้ย่อม ถูกลบบัญชีออกอย่างแน่นอน เมื่อเป็นการจ่ายเป็นอันดับขั้น ขึ้นไปข้างบนด้วย คนที่อยู่สายบนไม่รู้เรื่อง ก็พลอยโดนไปด้วย เพราะได้รับเปอเซนต์รายได้ส่วนหนึ่ง มาจากสาย ข้างล่าง ถ้ารายเดียวโกง ยังพอคำนวณลบเปอเซนต์ เฉพาะรายนั้น ๆ ออกได้ แต่หาก โกงหลาย ๆ คน และ สายลึก หลายชั้นขึ้นไป ย่อมเกินความสามารถ หรือเป็นการเสียเวลาในการแยกส่วนต่างเปอร์เซนต์ จึงเป็นที่มาของการ แบนทั้งขบวนในครั้งนั้น ๆ เมื่อไม่มีการแก้ไขหรือทำให้ถูกต้อง ก็จะถูกแบนอย่างถาวร เป็นที่มาของการ โพนทะนาว่า กิจกรรมนั้น ๆ ไม่จ่าย
6. ไม่เข้าใจวิธีการหารายได้ที่ถูกต้อง ไม่รับรู้ว่ามีวิธี ทำให้มีรายได้มากขึ้น กว่าระดับที่ตัวเองรู้เมื่อตอนเริ่มต้น
สุดท้ายก็เบื่อหน่าย บางรายโพนทะนาต่อว่าบริษัทนั้น ๆ ว่าไม่จ่าย ไม่ได้เงินจริง ทั้งที่มีคนที่ทำเงินมายาวนานหลายปี และ ก็ยังคงได้เงินกันอยู่ บริษัทก็ยังคงอยู่ได้ ย่อมต้องมีจริงเป็นจริง แต่คนที่ล้มเหลว ก็ย่อมมีจริงเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น