ข่าว ธุรกิจออนไลน์ 100%

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Passive income คืออะไร


ถ้าให้แปลตรงตัว Passive Income ก็คงแปลได้ว่า "รายได้เชิงรับ" เอาล่ะสิ ยิ่งแปลเป็นไทยยิ่ง "งง" กันเข้าไปใหญ่ ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกซักรอบว่า รายได้เชิงรับก็คือ"รายได้ที่ไม่ได้มาจากการที่เราออกแรงทำงานโดยตรง" จินตนาการง่ายๆว่า ในวันใดที่เราไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ยังมีเงินไหลเข้ากระเป๋าเราอยู่อย่างสม่ำเสมอ เงินก้อนนั้นแหละค่ะที่เราถือว่าเป็น Passive Income หรือ "รายได้เชิงรับ"
คำถามวัดความเข้าใจ : เงินเดือนของข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท เป็น Passive Income หรือไม่?
ติ๊กต่อก... ติ๊กต่อก...
คำตอบคือ "ไม่ใช่" เพราะเงินเดือนเหล่านั้นเกิดจากการทำงานในแต่ละเดือนเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนมา ดังนั้นเงินเดือนจึงเป็น Active Income (รายได้เชิงรุก) ซึ่งเมื่อใดที่เราหยุดทำงาน หน่วยงานราชการหรือบริษัทที่เป็นนายจ้างก็ย่อมหยุดจ่ายเงินเดือนไปโดยปริยาย รายได้ของเราก็จะหดหายไปทันที

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เผย..ธุรกิจมาแรงปี 59 พร้อมแนะแนวทางแก่ผู้ประกอบการยุคใหม่


Top up 2 Rich online Team
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นักวิชาการวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยกลุ่มธุรกิจมาแรงในปี 2559 คือกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการเงิน สุขภาพ และนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร ฉะนั้นหากผู้ประกอบการต้องการปรับตัวให้อยู่รอดในสภาวะปัจจุบันผู้ประกอบการต้องประยุกต์ใช้หลักการของสตาร์ทอัพเข้าสู่ธุรกิจนั่นคือการไม่หยุดนิ่งคิดค้นสิ่งใหม่ๆตลอดเวลาและการเพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าสู่ธุรกิจโดยผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ4ประการ คือ มุ่งมั่นตั้งใจ ริเริ่มสร้างสรรค์ วางแผนธุรกิจเป็น และกล้าเสี่ยงที่จะลงทุน
นายกิตติชัย ราชมหา อาจารย์ประจำภาควิชาผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนกำลังนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้ตลาดสินค้าและบริการเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาและขยับขยายธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มาแรงในยุคปัจจุบัน คือกลุ่มธุรกิจที่มีการประยุกต์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลักสำคัญเพื่อพัฒนาสินค้า บริการ หรือตัวแบบธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ธุรกิจอยู่รอด และเติบโตได้แบบก้าวกระโดดในอนาคต หรือที่มักคุ้นหูในชื่อ “สตาร์ทอัพ” (StartUp) นั่นเอง
I T S.ระบบของ Top Up 2 Rich 
ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตลาดภายใต้สภาวะแวดล้อมการแข่งขันในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วรวมถึงการเน้นสร้างความสะดวกสบายของผู้บริโภคผ่านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเช่นการเพิ่มช่องทางทำการตลาดผ่านแอพพลิเคชั่น(Application)ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคในปัจจุบันโดยธุรกิจเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากนักธุรกิจหน้าใหม่ แต่เป็นธุรกิจที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน ดังนั้น การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องคิดค้นและพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้เกิด “ความสดใหม่” อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่สร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือตัวแบบธุรกิจ จะสนับสนุนให้ธุรกิจก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของอุตสาหกรรมนั้นๆได้ไม่ยาก โดยกลุ่มธุรกิจที่จะมาแรงเป็นพิเศษในปี 2559 นั้น มี 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่


วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ในโลกนี้ไม่มีงานการใด ที่ไม่ลำบาก

การยื่น . . . กล้วย 1 ลูก กับ ทอง 1 แท่ง ให้กับลิง ลิงต้องเลือกกล้วย เพราะมันไม่รู้ว่าทองแท่งสามารถที่จะซื้อกล้วยได้เป็นพันเป็นหมื่นลูกได้
ในทำนองเดียวกัน การยื่นทองแท่งกับสติปัญญาแก่คนใดคนหนึ่ง คนส่วนมากจะเลือกทองแท่ง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าสติปัญญาสามารถจะแปรเปลี่ยนเป็นทองแท่งเป็นพันเป็นหมื่นแท่งได้
ดังนั้น บางครั้งการเลือกสรรก็สำคัญกว่าความขยัน

เมื่อ 10 ปีก่อน คุณเป็นใคร? หนึ่งปีก่อน คุณเป็นใคร? 
แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ คุณเป็นใคร? 
ก็ล้วนแต่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ วันนี้คุณเป็นใคร?

ชีวิตเรามีความเหน็ดเหนื่อยมากปัจจุบันไม่เหนื่อยต่อไปก็จะเหนื่อยมากขึ้น
ชีวิตเรามีความลำบากมากปัจจุบันไม่ลำบากต่อไปก็จะลำบากมากขึ้น
มีแต่เคยเหน็ดเหนื่อย จึงจะได้รับความสุขสบาย
มีแต่เคยลำบาก จึงจะรู้ถึงความสบาย

ช่วงที่ยังเยาว์วัย ต้องกล้า..ที่จะก้าวออกไป ....ไปผจญกับลมฝนและหิมะ
เพื่อฝึกฝนจิตที่มีความอดทน 
ความกระจ่าง เฉลียวฉลาดและความสุขจึงจะตามมา

ในโลกนี้ นอกจากตนเองแล้ว
จะไม่มีใครที่ช่วยเหลือคุณอย่างแท้จริง

ไข่ไก่...ถ้ามันแตกจากภายนอกก็จะเป็นอาหาร
ถ้ามันแตกจากภายในก็จะเป็นชีวิต
ชีวิตคนก็เช่นกัน หากถูกกระทำจากภายนอกจะเป็นแรงกดดัน
หากถูกกระทำจากภายในจะเป็นการเติบโต

เชื่อว่า .. ชีวิตคนเรา จะไม่ทอดทิ้งคุณ
คุณทนได้กับความลำบาก
คุณรับได้กับความเหน็ดเหนื่อย
คุณตกลงไปในหลุม
คุณเดินผิดเส้นทาง
ล้วนแต่เป็นการฝึกฝน
ให้คุณเติบใหญ่ แข็งแกร่งที่ไม่เป็นรองใคร

จิตที่คิดแบบง่ายๆ  ชีวิตก็จะง่าย
ใจที่เป็นอิสระ ชีวิตก็จะอิสระ
เรื่องต่างๆให้หาวิธีการแก้ไขให้มาก ลดการหาข้อแก้ตัว 
ที่สุดแล้ว เชื่อว่า..ความสุขจะอยู่ไม่ไกล
ยืนหยัดไว้ แล้วจะค้นพบตัวเอง...ที่สุดแกร่งของคุณ
คุณพยายามและเต็มที่แล้ว ถึงจะมีสิทธิ์พูดว่า ...
"ตนเองโชคไม่ดี"

ในโลกนี้ไม่มีงานการใดที่ไม่ลำบาก
ไม่มีงานการใดที่เกี่ยวข้องกับผู้คน จะไม่ซับซ้อน
จงยิ้มทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในโลกนี้ นอกจากความตายแล้ว
ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะว่ามีวันพรุ่งนี้ วันนี้ จะเป็นเพียง..วันเริ่มต้นเสมอ

หลังจากที่พยายามแล้ว จึงจะรู้เรื่องราวต่างๆ
ขอใหัยืนหยัดไว้ แล้วจะผ่านไปได้
คนเราคนเดียว อยู่ข้างนอกไม่ง่ายนัก
แต่ก็ไม่มีอะไร สิ่งที่สู้กันคือความแข็งแกร่ง
ผู้ที่ยิ่งผ่านเหตุการณ์มาก จะยิ่งสงบเรียบง่าย
ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์น้อย จะยิ่งใจร้อนลุกลน

หวังว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว จะได้ข้อคิดที่ดี..ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ
คำแปลจากบทปาฐกถา... ของ มร. ไฉ่ ซงฉี
ประธาน บ.อันโหวการบัญชี ประเทศจีน

------------------------------------------------------------------------------------------

ทดลองสมัครเป็น Affiliate หารายได้ง่าย ๆโดยไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียวได้ที่นี่ค่ะ งานนี้ไม่ลำบากเลย คลิกด้านล่างเลยค่ะ

                 




วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำไม"นักขาย"ถึงสู้ "นักการตลาด"ไม่ได้เลยในการขายสินค้าหรือสปอนเซอร์‏



บ่อยครั้งที่คำว่า "การขาย" และ"การตลาด" มักจะ ถูกนำไปใช้ในความหมายที่ใกล้เคียงกันแต่จริงๆแล้ว มันต่างกันมากทีเดียวค่ะทั้งในเรื่องของแนวคิด และแนวทางปฎิบัติ เพื่อให้ "เกิดการซื้อ" หรือเข้าร่วมธุรกิจระหว่าง 2 อย่างนี้   เช่น


นักขาย
1. นักขายนั้น เน้นไปที่ "สินค้า"
2. นักขาย มองหาสินค้าที่มีในบริษัท แล้ว ค่อยมองหา ผู้ที่จะนำไปเสนอ
3. การสร้างองค์กรเน้นการฝึกสอนไป ที่ "ปริมาณการขาย"
4. เน้นไปที่ความต้องการของ "นักขาย" หรือ ผู้ขาย
5. นักขาย มองธุรกิจเป็นเรื่องของการ "ขาย"สินค้าเพื่อทำกำไร
6. นักขาย เน้นไปทีวิธีการ ที่จะโน้มน้าว ให้ ผู้มุ่งหวังทำอย่างที่ตัวเองต้องการ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร


เป็นการเปรียบเทียบเรื่องจริงในชีวิตคน ถ่านกับเพชร สร้างด้วยต้นทุนเดียวกันคือ คาร์บอน 
คาร์บอน ที่ไม่ได้ผ่านแรงอัด แรงกดดันอะไร อยู่ตามธรรมชาติ ก็จะกลายเป็นถ่าน
ในขณะที่ คาร์บอน ที่ผ่านแรงอัดอย่างหนัก เป็นเวลานานๆ คาร์บอนที่สามารถผ่านออกมาได้ โดยไม่แตกไปเสียก่อน ถึงจะกลายเป็นเพชร
เราถึงได้ยินว่า เพชร แท้ที่จริง มันแข็งมาก เหตุที่มีค่า เพราะความยากนี้เองชีวิตคนเรา ก็คล้ายกัน เรื่องถ่านกับเพชร






***ชีวิตแบบถ่าน****
เช่น 
คนที่รักสบาย อยู่ไปเรื่อย เมื่อไหร่มีแรงกดดัน แทนที่จะสู้ ก็บ่นว่าแล้วก็หนีไป ตั้งเป้าในชีวิตแบบต่ำๆ ทำยาวๆ ไม่สนใจเรียนรู้ ไม่อยากพัฒนา เป็นน้ำเต็มแก้ว รู้ไปทุกเรื่อง แต่ไม่เคยทำจนสำเร็จสักเรื่อง ชอบพูดมากกว่าชอบทำ คิดเยอะ ส่วนใหญ่ก็ลบมากกว่าบวก โทษไปได้หมดทุกเรื่อง ยกเว้นอย่างเดียว คือ โทษตัวเอง ... ผลสุดท้าย ก็ไม่เคยได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

***ชีวิตแบบเพชร***** 
คนกลุ่มนี้ มองตาก็เข้าใจได้ เห็นเรื่องที่ต้องผ่าน เป็นเรื่องที่พิสูจน์ตัวเอง พูดน้อย ทำมาก ไม่ล้มเลิก เกาะติด พากเพียร ยอมแลก อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่ท้อ เป้าหมายมีไว้พุ่งชนอารมณ์ประมาณนั้น ขณะที่หลายคนมองว่า คนกลุ่มนี้ลำบาก เขาเองกลับไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้น


ใครบอกชีวิตไม่มีทางเลือก คำๆนี้ ได้ยินในถ่าน แต่จะไม่ผ่านไปในเพชร
หลายคนรอชะตาฟ้ากำหนดรอความโชคดี .




แชร์ลูกโซ่ ภัยมืดเมื่อเศรษฐกิจซบเซา

แชร์ลูกโซ่ ชวนลงทุนผลตอบแทนปันผลสูง
ช่วงนี้คิดว่าเศรษฐกิจ ค้าขายได้ยาก เศรษฐกิจซบเซา
แต่ธุรกิจแบบนึงจะรุ่งเรืองเพราะคนต้องการหารายได้เพิ่ม
ในปัจจุบันการชักชวนไปลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง โดยอ้างว่าทำธุรกิจมหัศจรรย์ให้ผลตอบแทนทุกเดือนเกิน 5%

มีความน่าเชื่อถือสูง เปิดจัดอบรมสัมมนาฟรี ใครจะไปกล้าปฏิเสธค้าขายก็ไม่ดี แต่งานนี้ทำง่ายๆรวยเร็ว
แต่เบื้องหลังคือ แชร์ลูกโซ่

โดยธุรกิจที่อ้างว่าได้กำไรดีจะฟังแล้วแปลกๆ เช่น แชร์หม้อก๋วยเตี๋ยว แชร์กฤษณา แชร์น้ำมันหอมระเหย แชร์บัตรเติมเงิน  แชร์ bitcoin แชร์ forex แชร์หุ้นปันผล โดยจะเปลี่ยนคำว่าแชร์เป็นคำว่า ลงทุนแทน 

การทำธุรกิจ ขายหม้อก๋วยเตี๋ยว ปลูกต้นกฤษณา ขายบัตรเติมเงิน trade bitcoin ,forex เป็นธุรกิจปกติที่ คนปกติก็สามารถทำได้เองไม่ผิดอะไร แต่ถ้าทำแบบ แชร์ลูกโซ่ ชักชวนให้สมาชิกนำเงินไปลงทุนโดยอ้างว่านำไปทำธุรกิจเหล่านั้น แต่แท้ที่จริงรายได้หลักมาจากค่าสมาชิก เป็น moneygame เอาเงินของคนใหม่ไปให้คนเก่านั่นเอง

คำถามต่อไปนี้มีให้เห็นทุกวัน
"ลงทุนกับ บริษัทชวนลงทุนนี้ดีไม๊ ได้เงินเยอะมาก"

ท่านใดอยากช่วยแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมก็ยินดี รวบรวมส่วนที่น่าสนใจบางอย่างมานำเสนอ

===============================================
ลักษณะแชร์ลูกโซ่
-อ้างถึงบุคคลที่น่าเชื่อถือว่าได้เข้าร่วมหุ้นกับบริษัทด้วย เช่น รัฐมนตรี อธิบดี หรือเจ้านายเรา ฯลฯ พร้อมภาพบุคคลเหล่านั้นร่วมกิจกรรม
-แสดงแผนการลงทุนและสัญญาร่วมทุนให้ดู ทำให้เห็นว่าการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนมหาศาล
-จัดอมรมสัมมนาหรือแถลงข่าวเปิดตัวที่โรงแรมใหญ่ๆ และเชิญคนดังมาร่วมงานมากมาย
-ไม่เน้นการขายสินค้าแต่เน้นให้สร้างทีมให้หาสมาชิกและผู้ลงทุนรายใหม่ โดยหาสมาชิกได้มากจะได้ค่าตอบแทนมาก
-ลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูงและจ่ายค่าตอบแทนเร็วเกินเหตุ รับลงทุนแบบไม่จำกัดจำนวน
ธรรมชาติของแชร์ลูกโซ่คือ
1. กำไรสูงอย่างไม่น่าเชื่อ : ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนน้อยๆ เพราะธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนเป็น "ธุรกิจมหัศจรรย์" ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกรรม อุ้ย! เป็นกอบเป็นกำ อย่างที่ไม่มีใครในโลกจะปฏิเสธผลกำไรที่แสนจะงดงามแบบนั้นได้ลงคอ
2. ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนช้า : เพราะถ้าได้เงินช้ามันก็ไม่ใช่ธุรกิจมหัศจรรย์น่ะสิ แถมยังอาจจะไม่ทันอกทันใจนักลงทุนที่อยากเห็นเงินก้อนโตภายในเวลาไม่กี่เดือน เพราะฉะนั้น คำโฆษณาชวนเชื่อที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก็หนีไม่พ้น
รวยเห็นๆ 6 เดือน 266%
10 เดือนกำไร 222%
กำไรเดือนละ 68%
กำไรทุกวัน วันละ 3% ทุก 15 วัน รับไปเลย 7.6% แค่ 60 วัน ได้ 142%
ทั้งๆ ที่การลงทุนที่ให้กำไรสูงๆ ในเวลาสั้นๆ มักไม่มีจริง

พ.ต.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มือปราบแชร์ลูกโซ่ กล่าวว่า "ถ้าเป็นการทำธุรกิจปกติ การทำกำไรให้ได้เกิน 20% ต่อปี คงจะเป็นเรื่องยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น หากมีการเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า 20% ต่อปี หรือผลตอบแทนที่สูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือแม้แต่ 1 ปี ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่"

http://moneygamevideo.blogspot.com/2009/03/blog-post.html

ความตกต่ำทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นเมื่อใด เราก็จะพบเห็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบต่างๆ สร้างความเสียหายแก่ประชาชน กรณีที่เห็นชัด คือ การกลับมาระบาดของแชร์ลูกโซ่และตกเป็นข่าวแทบจะทุกสื่อในเวลานี้ โดยเฉพาะแชร์ข้าวสาร และแชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก ล่าสุดทางการออกมาเตือนให้ระวังธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 400 รายที่อาจเข้าเป็นข่ายแชร์ลูกโซ่

http://www.kriengsak.com/node/1063

โดยผู้จะสมัครเข้าร่วมโครงการต้องผ่านการเข้าฟังบรรยาย และจ่ายเงินค่าสมัครคนละ 2,650 บาท และหากต้องการเป็นหัวหน้าสาย (Stock kits)  ต้องซื้อหุ้น 5,000 หุ้น หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งหลังจากมีชาวบ้านสมัครสมาชิกจำนวนมาก ทางสหกรณ์มีการจ่ายเงินให้ตามที่ได้ระบุไว้ โดยเฉพาะเงินกองทุนกรรีสมาชิกเสียชีวิต ที่เมื่อเป็นสมาชิกครบ 3 เดือน ได้ 30,000 บาท , 6 เดือน ได้ 50,000 บาท และเป็นสมาชิกครบ 12 เดือน ได้รับเงิน 100,000 บาท
http://www.dailynews.co.th/Content/regional/166954/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88+%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2+30+%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99


===============================================
คดี
แชร์ลูกโซ่ตุ๋นเงินประชาชน จำคุก  120,945 ปี
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154273
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000125614
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000025570
http://www.mgronline.com/Crime/ViewNews.aspx?

===============================================
สิ่งที่ควรทำ
-อย่าโลภ...
- อย่าเชื่อ...
- อย่าลอง...
- อย่าชวน...
- อย่าหา...
ปฏิบัติตามคติเตือนใจ 5 อย่า...แล้วคุณจะปลอดภัย...จากธุรกรรมฉ้อฉลแบบแชร์ลูกโซ่...
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=504050

ไม่ต้องแปลกใจถ้ามีเพื่อนมาชวนให้ไปทำเพราะมันคือธุรกิจหลักของเขา

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

CEO. ที่เก่ง ฉลาด มีวิสัยทัศน์ และมีคุณธรรมจริง ๆ

↔❇↔↔❇↔ภูมใจที่เลือกทำงานกับ CEO ที่เก่ง
ฉลาด มีวิสัยทัศน์ และมีคุณธรรมจริง ๆ...↔❇↔↔❇↔ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------
สู้ ๆๆๆ นะคะคุณเคน
(บทความนี้ เฉพาะชาวTOP UP 2 RICH เท่านั้นที่อ่านเข้าใจ ว่าสถานการณ์ที่พูดถึงคือเรื่องอะไร)

ไขปริศนา ทำไมเค้าจึงเขียนแผนแบบ uni-level ลึก 12 ชั้น
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ขึ้นพูดทุกที่ บอกว่าแผนไบนารี่ดีที่สุด
Uni-level มันไม่เวิร์ค

เป็นเพราะเค้าวางแผนต้องการที่จะย้ายคนจาก t2r เพื่อไปจัดเรียงใหม่ในผัง ทั้งหมด 1 ล้านรหัส ในวันเดียว จะได้กินเงินโบนัสจาก ค่าสมัครทุกรหัสในครั้งเดียว
ตามแผนการที่เค้าวางไว้ ว่าบริษัทใหม่จะเปิดเดือนกุมภาพันธ์ เค้าต้องค่อยๆทำให้ t2r ตายลง
ทำให้ผู้นำรายได้ลดลงๆเรื่อย สร้างกระแสลบๆให้เกิดขึ้นกับ t2r โดยให้ผู้นำลาออกไปทำตัวอื่นทีละคนสองคนกะว่ากว่าจะถึงเดือนกุมภาพันธ์ t2r คงแห้งตายพอดีและเมื่อบริษัทใหม่เปิด ก็จะถือโอกาสชักชวนทุกคนไปที่ใหม่อย่างง่ายดาย แล้วโยนความผิดให้ t2r

แต่พอดีมันไม่เป็นไปตามแผนที่เค้าวางไว้ เพราะ t2r ประกาศปรับแผน และนำเสนอรูปแบบ
การสมัครใหม่ในราคา 1100 บาทซึ่งมันเลยทำให้ผู้นำทั้งหมดนึกถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นเมื่อปี 55-56 ที่ทุกคนมีรายได้กันมากมาย และหากเป็นเช่นนั้นพอถึงเดือนกุมภา
ก็จะไม่มีใครย้ายตามไปบริษัทใหม่ และทำให้เค้าพลาดโอกาสปั่นเงินก้อนโตในครั้งนี้

แต่ถ้าเขียนแผนแบบไบนารี่ซึ่งจะมีการจ่ายเป็นรอบๆ มีการจ่ายโดยคิดจากคะแนน บาลานซ์ทั้งสองข้าง
และมีลิมิตสูงสุดในแต่ละวัน มันจะทำให้เค้ากินไม่หมดในทีเดียวแล้วต้องมาทยอยๆ ลงทีละวัน
มันจึงไม่ทันใจ

และถ้าเป็นไปตามแผนการที่เค้าวางไว้...คือลงแบบ unilevel โดยกะจะให้ทุกคนลงพร้อมกัน
ทีเดียว ซึ่งถ้าลงหมดแล้วและระบบคำนวนเงินค่าหัวครบทุกเม็ดเข้ากระเป๋าหมดแล้ว เค้าก็จะได้เงินก้อนโตทันที หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน

แต่ถ้าทยอยลงแบบไบนารี่ เหยื่อจะรู้ตัวก่อนว่าถูกหลอก และจะทำให้ผิดแผนกลยุทธ์การล่อหลอกให้คนลงเงิน....

หลักการวางแผนของเค้าคือ...
เค้าจะบอกว่าตอนนี้มีรหัสมาเรียงต่อคุณแล้ว เรียงมาแล้วกี่ร้อยกี่พันคน ซึ่งจะโชว์จากการที่ให้
คนมาโหลดแอพฟรีแล้วเอาผังนั้นมาล่อคุณ ซึ่งถ้าคุณช้าไม่มาต่อเป็นต้นสายไว้ก่อนจะทำให้คุณพลาดโอกาส ดังนั้นให้รีบจองไว้ก่อนและเค้าจะโทรหาทีละคน
ใครไม่รับก็จะพลาดขบวนรถไฟ สร้างความรู้สึกว่าคุณอาจจะพลาดโอกาสที่สำคัญ
ในชีวิต แน่นอนครับ วิธีการแบบนี้ หลอกคนโลภได้เสมอ หรือไม่ก็บอกว่าเดี๊ยวจะไปชวนคนนั้นคนนี้มาซึ่งเป็นคนที่คุณอาจรู้จัก แล้วถ้าคุณสมัครก่อนจะได้เอามาต่อคุณคราวนี้เมื่อเหยื่อหลงกล
วางรหัสลงในผัง ก็ถึงคราวที่ จะให้สร้างสถานการณ์ให้คุณลงเงิน โดยจะบอกว่า ตอนนี้มีรายชื่อจำนวนมากมาต่อใต้คุณแล้วนะ ซึ่งคนเหล่านั้นกำลังจะอัพเกรดดังนั้นให้คุณรีบอัพเกรดก่อน
โดยเสียเงินค่าสมัคร 2500 เพราะไม่เช่นนั้น หากคนข้างล่างอัพเกรดคุณจะไม่ได้เงินโบนัส
และ พลาดโอกาสที่จะรับเงินหมื่นเงินแสน

นี่มันเป็นวิธีการหลอกคนโลภครับ เพราะพอคุณลงเงิน ก็เป็นอันเสร็จพิธีของเค้า และก็ไปหลอกคนอื่นต่อทำไปด้าย......



วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รู้มั๊ยความหมายของคำว่า โชคดี ที่แท้คืออะไร

โชคดี = โอกาส + การเตรียมพร้อม
ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง มันก็จะไม่ใช่โชคดี แต่เป็นฟลุ้ค ซึ่งในชีวิตหนึ่ง การรอคอยอาจจะไม่ได้มา แม้ได้มาก็รักษาไว้ไม่ได้
ชีวิตคนเราสั้นนัก วันๆหนึ่งผ่านไปเร็วมาก ปีหนึ่งๆก็แว่บๆผ่านไปอีกปี
ถ้าแต่ละปีที่ผ่าน เป็นถ่านหมด ... สังเกตจาก ทำเรื่องเดิมๆ พูดเรื่องเดิมๆ อยู่แบบเดิม แต่หนักและแย่กว่าเดิม
เอาใหม่.. ตั้งเป้าความฝัน พยายามทำ เมื่อไหร่รู้สึกลำบาก ต้องเหนื่อย หนัก ให้ดีใจร้องไชโยเข้าไว้... ใกล้เป็นจริงแล้ว
พับแขนเสื้อขึ้น พร้อมลุย ... บอกตัวเอง ชีวิตของเรา ไม่เอาถ่าน เราจะผ่านไปเป็นเพชรเท่านั้น
ขอให้เรา เป็นคนของความโชคดี
ชอบมากๆ ขอมอบสิ่งดีๆ

สำหรับใครหลายๆคนที่อะไรต่อมิอะไรก็ดูไม่เป็นดั่งใจไปเสียทั้งหมด นี่คือมุมมองใหม่สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ...
อ่านจบแล้วคุณจะพบกับรอยยิ้มและมุมมองใหม่ที่คุณเองก็คาดไม่ถึง
๑. การอธิษฐานไม่ใช่
"ยางอะไหล่" ที่จะทำให้คุณหลุดพ้นจากปัญหา แต่คือ "พวงมาลัย" ที่จะพาคุณไปในทิศทางที่ถูกต้อง
๒. ทำไมรถยนต์จึงมีกระจกกันลมหน้าบานใหญ่แต่มีกระจกมองหลังบานเล็ก เพราะอดีตของเราไม่สำคัญเท่ากับอนาคตของเรา ดังนั้นจงมองไปข้างหน้าและก้าวต่อไป
๓. ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนเหมือนหนังสือ ที่ใช้เวลาเผาไหม้เพียงเศษเสี้ยววินาที แต่ใช้เวลาหลายปีเพื่อจะเขียนมันขึ้นมา
๔. ทุกอย่างบนโลกใบนี้เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ถ้ามันดีให้มีความสุขกับมันเพราะมันจะอยู่กับเราไม่นาน ถ้ามันไม่ดีอย่ากังวล เพราะมันจะอยู่กับเราไม่นานอีกเหมือนกัน
๕. เพื่อนเก่าเปรียบเสมือนทองคำ เพื่อนใหม่เปรียบเสมือนเพชร เมื่อคุณได้รับเพชรอย่าลืมทอง เพราะในการถือครองเพชรคุณจะต้องมีฐานทองคำเสมอ
๖.ความกังวลไม่ได้นำเอาปัญหาของวันพรุ่งนี้ออกไป แต่มันนำเอาความสงบสุขของวันนี้ไปต่างหาก
ขอให้เราทั้งหลายได้พบกับความสุขที่แท้จริง
"ขอให้ทุกคน โชคดี เลือกเดินบนเส้นทาง แห่งการต่อสู้ ด้วยสติ"


วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2558

ปฏิบัติการทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ u-fun

ปฏิบัติการทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ u-fun ที่ตำรวจ สคบ. และปปง.ร่วมกันจับกุมเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟันสโตร จำกัด ที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ ในหลายประเทศและมีผู้บริหารใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย เป็นเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ที่ตำรวจประเมิณว่าในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 14,700 คน เบื้องต้น สคบ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทเมื่อวันที่ 8 เมษายน หลังเชิญผู้บริหารเข้าพบถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร และ ปปง.ญยึดทรัพย์จากเครือข่ายดังกล่าวได้ 250 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้บริหารและผู้ถือหุ้น 8 คน เป็นชาวมาเลเซีย 3 คน และคนไทย 5 คน ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินเพื่อฉ้อโกงประชาชน

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คือบริเวณรามอินทรา 62 จับผู้ต้องหาชื่อนายฤทธิเดช วรงค์ อาชีพทนายความ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่มากถึง 51% ส่วนนายนายอาทิตย์ ปานแก้ว ผู้ถือหุ้นร่วม ที่อยู่ในหมายจับไม่ได้อยู่ในสถานที่ ดังกล่าวด้วย โดยพบว่า ที่พักถูกใช้เป็นสำนักงานในการดำเนินธุรกิจ และพบเอกสารธุรกรรมทางการเงินจำนวนมาก พร้อมทั้งพบทรัพย์สินมีค่าที่เป็นอุปกรณ์ทางโหราศาสตร์จำนวนมาก

นายฤทธิเดช ให้การว่า ตนเองเข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2557 โดยยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ฉ้อโกงตามที่ถูกกล่าวหา เพราะไม่มีการจำหน่ายสินค้าของบริษัท แต่เป็นลักษณะของการนำสิรค้าจากสมาชิกมาจำหน่ายกันเอง

ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากประชาชนร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจำนวนมาก และศูนย์แก้ไขปัญหาเพื่อความมั่นคง ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีดำเนินการแก้ปัญหาอย่างถอนรากถอนโคน ทั้งทางแพ่ง และอาญา กับเครือข่ายดังกล่าว โดยพบว่าบริษัท ดำเนินธุรกิจไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการขอจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรง เนื่องจากไม่พบว่ามีการซื้อขายสินค้าเหมือนธุรกิจขายตรงอื่น และเมื่อตรวจสอบแหล่งที่ตั้งของโรงงานผลิตสินค้าที่บริษัทระบุไว้ พบเป็นเพียงร้านขายของชำและดำเนินธุรกิจโดยออกสกุลเงินของตนเองใช้ในหมู่สมาชิกเรียกว่ายูโทเคนใช้แทนสกุลเงินปกติแต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในโลกออนไลน์ เสียค่าสมัครคนละ 17,000 บาท
ผู้ต้องหา คนไทย
นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า
นายรัชวิชญ์ ธิติอรุณรัตน์
นายฤทธิเดช วรงค์
นายอาทิต ปานแก้ว
นายไชรธร ทองหล่อเลิศ
ชาวมาเล
นายเท คิม เลง
นายวอน ชิง หัว
นายลี ควง มิง

ดูข่าวที่นี่ค่ะ

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องของคน

อดีต พระเจ้าสร้างควายก่อน
พระเจ้าบอกควาย “แกไปไถนาทุกวัน จากตะวันขึ้นจนตะวันตกดิน
กินแต่หญ้า ให้แกอยู่ได้ 60 ปี”

ควาย “ไม่เอาหรอก ทำงานหนักแทบตาย กินได้แต่หญ้า
เอา 20 ปีพอ ที่เหลือคืนพระเจ้า”
พระเจ้าตกลง

วันต่อมา พระเจ้าสร้างลิง
พระเจ้าบอกลิง “แกไปทำให้สัตว์อื่นมีความบันเทิง ทำให้สัตว์อื่นหัวเราะ
ตีลังกาให้สัตว์อื่นดู กินได้แต่กล้วย ให้แกอยู่ 20 ปี”

ลิง “ทำให้สัตว์อื่นหัวเราะ แสดงกายกรรม ตีลังกา งานหนักขนาดนี้
เอา 10 ปีพอ”
พระเจ้าตกลง


วันต่อมา พระเจ้าสร้างหมา
พระเจ้าบอกหมา “แกไปอยู่หน้าบ้าน กินของเหลือจากเจ้าของ
ให้แก 25 ปี”

หมา “เห่าทั้งวัน เอา 15 ปีพอ ที่เหลือคืนพระเจ้า”
พระเจ้าตกลง


วันต่อมา พระเจ้าสร้างคน
พระเจ้าบอกคน “แกเอาแต่นอน กิน เล่น เที่ยว ไม่ต้องทำอะไรเลย
ให้มีความสุขกับชีวิต ให้แก 20 ปี”

คน “ชีวิตมีความสบายแบบนี้ 20 ปี น้อยไป”
พระเจ้าไม่ได้พูดอะไร
คน “เอาอย่างนี้ ควายคืนไป 40 ลิง 10 หมาก็ 10 ปี ยกให้ผมแล้วกัน
ผมก็อยู่ได้ถึง 80 ปี”

พระเจ้าตกลง
คนเลยกินข้าว นอน เล่น เที่ยว 20 ปี
ที่เหลือ 40 ปี ทำงานยังกะควายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ต่อมา 10 ปี ก็ทำตัวเป็นลิง บันเทิงหลาน
สุดท้าย 10 ปี เฝ้าบ้านไปไหนไม่ได้ ยังกะหมา..



วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

Thai MLM Online แนะนำ.... 10 กลโกงทางอินเทอร์เน็ตเมื่อ 10 ปีก่อน (Internet Fraud)

รูปแบบของการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต 
มีลักษณะและวิธีการป้องกันโดยสรุป ดังนี้ 
1. การหลอกลวงให้ประกอบธุรกิจที่บ้าน (Work-at-Home)
 
ลักษณะการหลอกลวง:

บริษัทที่หลอกลวงจะเชิญชวนให้ผู้ต้องการประกอบธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตหรือธุรกิจด้าน
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สมัครเป็นสมาชิกเพื่อทำธุรกิจ โดยผู้บริโภคมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์และ
สามารถ ใช้อินเทอร์เน็ตจากที่บ้านได้ และมักอ้าง ว่าธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ผู้บริโภคจะไม่ได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจ ไม่มีข้อมูลธุรกิจ ที่ชัดเจนหรือไม่ทราบว่าตน
อาจไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เลยผู้ถูกหลอกลวงจะถูกเรียกเก็บเงินค่าสมาชิกหรือซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น
เพื่อเริ่มทำธุรกิจ


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่มีการกล่าวอ้าง และอาจต้องสูญเสียเงินจากการลงทุนอีกด้วย

วิธีการป้องกัน: 
ผู้ที่ต้องการลงทุนหรือต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ควรศึกษาหรือสอบถามรายละเอียดของ
ประเภทธุรกิจที่จะลงทุนการจ่าย เงินค่าตอบแทนที่ผู้บริโภคจะได้รับ ที่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน
รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะต้องจ่ายในการเริ่มต้นทำธุรกิจ และผู้บริโภคควรระวังไม่หลงเชื่อ
คำเชิญชวนของผู้ที่อ้างว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากภายในระยะเวลาสั้นๆ



2. การประมูลสินค้าทางอินเทอร์เน็ตโดยหลอกลวง (Internet Auction Fraud)
การโฆษณาขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีการประมูลสินค้า ผู้ซื้อที่สนใจจะเข้าร่วมการประมูลมัก ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกของเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หลังจากนั้นจะได้รับ หมายเลขสมาชิกและรหัสผ่าน (password) ผู้ซื้อจะต้องเสนอราคาซื้อแข่งขันกับผู้ซื้อรายอื่น เมื่อเสร็จสิ้นการ ประมูลถือว่ามีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประมูลและผู้เสนอขาย โดยจะมีการส่งข้อความทางอีเมล์ (e-mail) แจ้งให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบผลการประมูล และแจ้งรายละเอียดที่จะติดต่อกันได้ เพื่อให้ทั้งฝ่ายผู้ซื้อและ ผู้ขายติดต่อกันในเรื่องการชำระเงินและการส่งมอบสินค้า

ลักษณะการหลอกลวง: การประมูลสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เป็นวิธีการซื้อขายสินค้าที่ได้รับความนิยม และเป็นช่องทางการ ติดต่อซื้อขายสินค้าที่สะดวกรวดเร็ว ในรายงานสำรวจที่กล่าวมาแล้วของบางประเทศพบว่า เป็นวิธีการ หลอกลวงที่พบมากที่สุดเช่นกัน การหลอกลวงมีหลายรูปแบบ เช่น ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าที่ผู้ซื้อประมูลได้ เพราะไม่มีสินค้าอยู่จริง, การหลอกลวงโดยการปั่นราคาซื้อขาย ผู้ขายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายจะ เข้าเสนอราคาเพื่อประมูลสินค้าของตน เพื่อให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงเกินจริง เป็นต้น
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: ผู้ซื้อได้ชำระค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือเป็นสินค้า ที่มีลักษณะไม่ตรงกับที่มีการเสนอขายแต่แรก ด้านผู้ให้บริการประมูลทางอินเทอร์เน็ตเองก็อาจได้รับความ เสียหาย เพราะผู้ใช้บริการ (ผู้ซื้อและผู้ขาย) ไม่ให้ความไว้วางใจและไม่ใช้บริการวิธีการป้องกัน: ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการด้านการประมูลทางอินเทอร์เน็ต (คนกลาง) มีวิธีการระบุตัวบุคคลที่เป็นผู้ขาย (หรือผู้ซื้อ) ดีพอหรือไม่ กล่าวคือมีการเก็บประวัติ รายละเอียดของผู้ขาย ที่สามารถติดต่อได้ หรือพิจารณาว่าผู้ให้บริการด้านการประมูลทางอินเทอร์เน็ต (คนกลาง) มีนโยบายการ ประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง

3. การให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยหลอกลวง (Internet Service Provider Scams) 

ผู้หลอกลวงจะส่งเช็คจำนวนหนึ่ง (เช่นราว 3.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้แก่ผู้ใช้บริการ เมื่อมีการเบิกเงินตาม เช็คแล้วก็ถือว่าผู้บริโภคตกลงที่จะใช้บริการของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider - ISP) ที่ได้รับแจ้ง ในการนี้อาจจะไม่มีการแจ้งค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ และมักเป็นการทำสัญญาให้ บริการอินเทอร์เน็ตที่มีระยะเวลานาน ผู้หลอกลวงจงใจให้ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการเกิดความสับสน และเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการนั้น กล่าวคือเมื่อผู้บริโภคเข้าทำสัญญา ดังกล่าวแล้วจะถือว่า ยินยอมตามเงื่อนไขทุกประการที่ระบุไว้ การหลอกลวงดังกล่าวนี้มักพบในประเทศที่มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หลายราย และมีบริการที่หลากหลาย


ลักษณะการหลอกลวง:
ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคำขู่ ที่กล่าวว่าถ้าหากผู้ใช้บริการ ต้องการเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญา จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่สูง


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคำขู่ที่กล่าวว่า ถ้าหากผู้ใช้บริการต้องการเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญา จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่สูง


วิธีการป้องกัน:
เมื่อผู้บริโภคได้รับเช็คโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนแล้ว ไม่ควรทำข้อตกลงใดๆ กับบุคคลอื่น แต่ควรศึกษา รายละเอียดของเอกสารหรือข้อตกลงที่ส่งมาโดยถี่ถ้วน ตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะถูกเรียกเก็บให้ครบถ้วน และควรติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยตรง


4. การใช้บัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาต (Credit Card Fraud)

การชำระค่าสินค้า ค่าบริการทางอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมที่สุดวิธีหนึ่งคือ การชำระเงินด้วยบัตร เครดิต เนื่องจากมีความสะดวกแก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ซื้อสามารถชำระเงินโดยการให้ข้อมูลบัตรเครดิตคือ หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อ-สกุลของ ผู้ถือบัตร และวันหมดอายุแก่ร้านค้า ร้านค้าสามารถตรวจสอบได้เพียงว่า บัตรดังกล่าวเป็นบัตรที่ออกโดยผู้ออกบัตรจริง แต่ไม่สามารถตรวจสอบตัวบุคคลผู้ใช้บัตรได้ว่าเป็นบุคคลใด
ลักษณะการหลอกลวง: วิธีการหลอกลวงเกี่ยวกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ตมีหลายวิธี ตัวอย่างเช่น การให้บริการดูภาพลามกอนาจารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (ตามกฎหมาย สหรัฐอเมริกา) แต่ผู้บริโภคต้องแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตให้ผู้ให้บริการทราบ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แล้วผู้หลอกลวงจะใช้ข้อมูลนี้ไปกระทำผิดในที่อื่น


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ถือบัตรที่เป็นผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าสินค้าหรือบริการจากบริษัทหรือธนาคารผู้ออกบัตร ทั้งที่ผู้ ถือบัตรไม่ได้ใช้บัตรเครดิตชำระรายการนั้นๆ เลย ซึ่งกฎหมายบางประเทศจะให้ความคุ้มครองผู้ถือบัตร ในกรณีนี้ หรือผู้ถือบัตรรับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในข้อตกลงระหว่างผู้ออกบัตรและผู้ถือบัตร


วิธีการป้องกัน: ผู้ถือบัตรเครดิตไม่ควรแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตให้บุคคลอื่นทราบ แต่หากต้องมีการชำระเงินด้วยบัตร เครดิต ทางอินเทอร์เน็ต ก็ควรเลือกร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีหลักแหล่งที่แน่นอนสามารถติดต่อได้ หรือผู้บริโภคอาจเลือกใช้บัตรที่มีวิธีการตรวจสอบตัวบุคคลผู้ใช้บัตรว่าเป็นผู้ถือบัตร เช่น การใช้รหัสประจำ ตัว (PIN) หรือรหัสใดๆ ที่ไม่ปรากฎอยู่บนบัตร แต่ถือ เป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตรที่ไม่เปิดเผย ให้บุคคลอื่นทราบ นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรควรตรวจดูข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้ออกบัตรด้วยว่ามีเงื่อนไข ความรับผิดชอบอย่างไร



5. การเข้าควบคุมการใช้โมเดมของบุคคลอื่น (International Modem Dialing/ Modem Hijacking) 
ลักษณะการหลอกลวง: 
การโฆษณาการให้บริการสื่อลามกอนาจารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ใช้บริการจะต้องติดตั้งโปรแกรม คอมพิวเตอร์เพื่อดูภาพดังกล่าวหรือเรียกว่า ‘viewer’ หรือ ‘dialer’ ของผู้ให้บริการ เมื่อผู้ใช้บริการเปิดดูภาพ ด้วยโปรแกรมข้างต้นแล้ว การทำงานของโปรแกรมดังกล่าวจะเริ่มเมื่อมีการใช้เครื่องโมเดม (modem) ในขณะเดียวกันโปรแกรมฯ จะควบคุมการทำงานของโมเดม และสั่งให้หยุดการทำงานโดยที่ผู้ใช้บริการไม่รู้ ตัว แล้วจะสั่งให้มีการต่อเชื่อมผ่านโมเดมอีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นการใช้โทรศัพท์ ทางไกลจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วมีการใช้อินเทอร์เน็ตอีกครั้งจากที่นั้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถดูเว็บไซต์


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: ผู้ใช้บริการจะถูกเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์ทางไกลจำนวนมาก ทั้งที่ผู้ใช้บริการอาจไม่รับรู้ ซึ่งเป็นเพราะ มีบุคคลอื่นลักลอบใช้โทรศัพท์โดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
วิธีการป้องกัน: ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงไม่ติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำหรับการให้บริการใดๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูเว็บไซต์ที่มีข้อมูลภาพลามกอนาจาร และควรตรวจสอบเงื่อนไข และค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าพบสิ่งผิดปกติ ต้องแจ้งระงับการใช้งานกับผู้ให้บริการทันที นอกจากนั้น ผู้ใช้บริการควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการโทรศัพท์อย่างสม่ำเสมอ



6. การหลอกลวงให้ใช้บริการเกี่ยวกับเว็บไซต์ (Web Cramming)

ลักษณะการหลอกลวง:
การหลอกลวงว่ามีการให้บริการเปิดเว็บเพจ (web page) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เช่นการเปิดเว็บเพจ เป็นเวลา 30 วัน และไม่มีข้อผูกพันใดๆ ถ้าไม่ใช้บริการต่อไป


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: เมื่อมีการตกลงใช้บริการดังกล่าวแล้ว ผู้ใช้บริการจะถูกเรียกเก็บเงินค่าใช้บริการโทรศัพท์ หรือค่าใช้ บริการในการมี เว็บเพจ (ค่าธรรมเนียมการใช้พื้นที่) เป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยใช้บริการ หรือไม่ได้สมัคร แต่อย่างใด ผู้ใช้บริการยังไม่ สามารถแจ้งให้ผู้ให้บริการยกเลิกได้ทันทีอีกด้วย
วิธีการป้องกัน:
ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ และเลือกใช้บริการที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น (กรณีนี้มักพบใน ประเทศที่มีผู้ให้บริการโทรศัพท์จำนวนมากเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) 


7. การหลอกลวงโดยใช้การตลาดหรือการขายแบบตรง (Multilevel Marketing Plans/ Pyramids)

ลักษณะการหลอกลวง: การหลอกลวงในลักษณะนี้คล้ายคลึงกับการนำสื่อโฆษณาในการทำตลาดหรือการขายตรง โดยมีการ
ชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกในเครือข่ายธุรกิจ โดยการกล่าวอ้างว่าผู้ขายจะได้รับสิทธิในการจำหน่ายสินค้าหลายชนิด และได้รับผลประโยชน์จากการขายสินค้าหรือชักชวนบุคคลอื่นเข้ามาเป็นตัวแทนขายตรงเป็นทอดๆ ทำให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จริงมีจำนวนน้อยราย


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: ผู้บริโภคที่เข้าร่วมเครือข่ายจะต้องชำระค่าสมาชิกจำนวนหนึ่ง แต่จะไม่มีรายได้ประจำแต่อย่างใด
รายได้ของผู้บริโภคจึงไม่แน่นอนและมักจะไม่ได้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้หลอกลวงกล่าวอ้าง เพราะไม่
สามารถขายสินค้าได้ตามเป้าหมาย


วิธีการป้องกัน: ผู้บริโภคควรระมัดระวังในการสมัครเป็นสมาชิกหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้า ที่ต้องหาสมาชิกรายอื่น
เพิ่มขึ้นหรือต้อง จำหน่ายสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงให้ได้ตามยอดจำหน่ายที่กำหนด เพราะอาจถูก
หลอกลวงได้ 

8. การหลอกลวงโดยเสนอให้เงินจากประเทศไนจีเรีย (Nigerian Money Offers)

ลักษณะการหลอกลวง: ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะได้รับข้อความจากจดหมายหรืออีเมล์ (e-mail) จากบุคคลที่กล่าวอ้างว่ามีความ
สำคัญในประเทศไนจีเรีย เพื่อขอช่วยเหลือในการโอนเงินจำนวนมากไปยังต่างประเทศ โดยผู้บริโภคจะได้รับเงินส่วนแบ่ง จำนวนนับล้านเหรียญ ดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อความในจดหมายหรืออีเมล์มีเนื้อหาทำนองว่า ประชาชนในประเทศไนจีเรียไม่สามารถเปิด
บัญชีเงินฝากในต่างประเทศ หรือโอนเงินออกนอกประเทศที่มีมูลค่าราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้
หรือรัฐบาลไนจีเรียต้องการทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ จึงต้องการความช่วยเหลือจากชาวต่างชาติในการ
เปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันที่เบิกด้วยเช็ค ซึ่งท่านจะได้รับค่า ตอบแทนหรือค่านายหน้า
ผู้บริโภคเพียงแต่แจ้งรายละเอียดของบัญชีเงินฝากของตน และกรอกเอกสารพร้อมทั้งลงลายมือชื่อ
ของเจ้าของบัญชีเท่านั้น


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: เมื่อมีการแจ้งข้อมูลบัญชีเงินฝากแล้ว ผู้บริโภคจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนินการตลอดเวลา โดยให้ผู้บริโภคโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ ผู้ที่หลอกลวงจึงสามารถเบิกเงินจาก
บัญชีดังกล่าวได้ โดยอ้างเอกสารมอบอำนาจของเจ้า ของบัญชี แต่การโอนเงินลักษณะนี้อาจทำไม่ได้
ในประเทศไทย เว้นแต่จะเป็นการโอนเงินระหว่างบัญชีของธนาคารเดียวกัน ทางอินเทอร์เน็ต


วิธีการป้องกัน:
ผู้บริโภคไม่ควรหลงเชื่อบุคคลอื่นที่อ้างตัวและเสนอจะให้ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลโดยไม่มี
ความเสี่ยงเช่นนี้ และ ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลบัญชีธนาคารของตนแก่ผู้อื่นด้วย


9. การหลอกลวงให้จดทะเบียนโดเมนเนม (domain name registration scams) 



ลักษณะการหลอกลวง: ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตที่ต้องการมีเว็บไซต์และโดเมนเนมของตนเอง จะได้รับ
การเสนอแนะว่าท่านสามารถได้รับสิทธิในการจดทะเบียนโดเมนเนมในระดับบนที่เรียกว่า
“Generic Top-Level Domain’ หรือ gTLD ได้แก่ .com, .org, .net, .int, .edu, .gov,
.mil, .aero, .biz, .coop, .info, .museum, .name, and .pro เป็นต้น ก่อนบุคคลอื่น
และถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจองโดเมนเนมที่ต้องการ ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีการให้บริการ
ในลักษณะดังกล่าว


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ที่หลงเชื่ออาจได้รับความเสียหายเพราะได้ชำระเงินให้แก่ผู้ที่หลอกลวง โดยไม่ได้รับสิทธิหรือ ประโยชน์ตามที่กล่าวอ้าง


วิธีการป้องกัน: หลีกเลี่ยงการใช้บริการการขอจดทะเบียนโดเมนเนมล่วงหน้า ที่ให้การรับรองว่าจะได้รับสิทธิ ในการเลือกโดเมนเนมประเภทนี้ (gTLD) ก่อนบุคคลอื่น และไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณา ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการยื่นขอจดทะเบียนจากผู้รับจดทะเบียนที่ได้รับสิทธิภายใน ประเทศหรือเว็บไซต์ของ ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) (www.icann.org) ควรใช้บริการจดทะเบียนโดเมนเนมกับหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต, บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือใช้บริการของ “ศูนย์สารสนเทศเครือข่ายแห่งประเทศไทย” (Thailand Network Information Center – THNIC) (
www.thnic.net

10. การหลอกลวงโฆษณาหรือขายยามหัศจรรย์ (miracle products) 

ลักษณะการหลอกลวง: การโฆษณาหรือขายยาทางอินเทอร์เน็ตที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคหรืออาการ
เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV/AIDS), โรคความดัน
โลหิตสูง ฯลฯ หรือสามารถบรรเทาความเจ็บป่วยได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และมักอ้างว่ายาเหล่านี้
ได้รับการรับรองหรือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว


ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้: ผู้ป่วยที่ซื้อยาดังกล่าวโดยเชื่อว่าสามารถรักษาความเจ็บป่วยได้ อาจต้องสูญเสียเงินหรือ
โอกาสในการได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนั้น ยังอาจได้รับอันตรายจากการใช้ยาเหล่านั้นด้วย


วิธีการป้องกัน: การใช้ยารักษาโรคควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น


แหล่งข้อมูล

National Fraud Information Center, Internet Fraud Statistics (2001-2000),
http://www.fraud.org/internet/2001stats10mnt.htm
National Fraud Information Center, Six-Month Data Trends Report May-November 2000
http://www1.ifccfbi.gov/strategy/6monthreport.pdf
Federal Trade Commission, Operation Top Ten Dot Cons (October 2000),
http://www.ftc.gov
Ministry of Consumer Affairs, Scam Watch!,
http://www.ecommerce.or.th/project/fraud/index.html

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

กลโกงในการหลอกขายสินค้าออนไลน์

ระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้มีความฉลาดอย่างมากในการดักจับข้อมูลของผู้ใช้โดยที่ผู้ใช้เองไม่รู้ตัว ด้วยกลไกของระบบการตลาดทำให้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคผ่านการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยง่าย เช่น บน facebook ก็จะทราบว่าผู้ใช้งานรายนี้เคย search หาข้อมูล หรือกด Like แฟนเพจเกี่ยวกับเรื่องอะไร เป็นลูกค้าของกลุ่มสินค้าอะไร มีความสนใจด้านไหน ก็จะขึ้นโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภครายนั้น เช่นเดียวกับระบบอีเมลสาธารณะก็มีการโฆษณาตามข้อมูลความสนใจของผู้บริโภค หรือแม้แต่เว็บไซต์แหล่งสืบหาข้อมูล (search engine) เช่น Google ก็จะเก็บข้อมูลของการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้งานเช่นกัน ว่า search หาข้อมูลเกี่ยวกับอะไร จึงเป็นโอกาสที่มิจฉาชีพจะสืบค้นข้อมูลได้ว่ากลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการ หรือความสนใจในสินค้าประเภทนี้มีใครบ้าง และก็ฉวยโอกาสในการโกงได้ ซึ่งวงจรของกลโกงที่มิจฉาชีพร้านขายสินค้าปลอมมักจะใช้เพื่อหาเหยื่อนั้นมี 6 ขั้นตอน ได้แก่
  1. มิจฉาชีพจะติดต่อหาเหยื่อที่กำลังต้องการสินค้า โดยแฝงตัวไปอยู่ในกลุ่มแฟนเพจ หรือเปิดเว็บไซต์ปลอมและแอบโฆษณาแฝงผ่านแฟนเพจต่างๆ ที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก เช่น แฟนเพจดารา คนดัง เป็นต้น และทำให้คนเห็นและสนใจติดต่อกลับไปหา
  2. สร้างความเชื่อถือด้วยภาพสินค้า และหลักฐานปลอมเพื่อระบุตัวตน ซึ่งจริงๆ แล้วอาจเป็นภาพที่หาได้บนอินเทอร์เน็ต การเขียนข้อความ Review ปลอมขึ้นมา เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ และใส่ข้อมูลของชื่อผู้ขายปลอม ช่องทางการติดต่อต่างๆ ที่ชัดเจนเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งเคยมีกรณีที่ผู้ขายหลอกขายตุ๊กตาเฟอร์บี้โดยแอบอ้างว่าเป็นดารามาแล้ว และมีเหยื่อที่หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก
  3. หว่านล้อมให้เหยื่อยอมโอนเงินค่าสินค้า หากเหยื่อรู้สึกว่าราคาถูกจนผิดปกติ หรือ รู้สึกไม่ไว้วางใจ มิจฉาชีพก็จะพยายามพูดโกหกเพื่อตอบข้อสงสัยของเหยื่อ เช่น บอกว่าขายราคาถูกเพราะไม่มีค่าลงทุนในการเปิดเว็บไซต์ เน้นรับมาจากแหล่งผลิตและขายให้กับผู้บริโภคเลย เป็นต้น จนเหยื่อยอมโอนเงินค่าสินค้าให้
  4. ส่งสินค้าปลอมให้เหยื่อ หรือในกรณีที่แย่ที่สุด คือไม่ส่งสินค้าใดๆ ให้เลย หลังจากได้รับเงินแล้ว มิจฉาชีพก็จะถือว่าเหยื่อติดกับแล้ว และเตรียมการหลบหนี
  5. ปิดช่องทางการสื่อสาร และหลบหนี  ลบข้อมูลทุกอย่างทิ้ง ปิดเบอร์โทรศัพท์ ลบอีเมลทิ้ง และหลบหนีปกปิดตัวตนของตน ทำให้เหยื่อติดต่อกลับไม่ได้ และเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอกแล้ว จะแจ้งตำรวจก็ค่อนข้างยากในการหาหลักฐานต่างๆ
  6. เปลี่ยนชื่อ หลักฐาน เริ่มวงจรหลอกลวงใหม่
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้แถลงการณ์ถึงการร้องเรียนของผู้บริโภคในเรื่องปัญหาการใช้บริการของธุรกิจออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนกว่า 200-300 รายที่ได้ร้องเรียนปัญหาจากการตกเป็นเหยื่อของการซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งส่วนมากที่พบจะเป็นกลุ่มของสินค้าประเภทของแบรนด์เนมที่มีราคาแพง โดยเฉพาะกระเป๋า รองเท้า นาฬิกา และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ ซึ่งขายในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ผู้ที่ร้องเรียนประสบปัญหากับการได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ คุณภาพต่ำกว่าที่โฆษณา ได้สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อหรือไม่ตรงกับที่ต้องการ และที่แย่ที่สุดก็คือไม่ได้รับสินค้าเลย (มี.ค. 2557 เว็บไซต์ ch3.sanook.com) ผู้บริโภคที่ฉลาดรู้ ฉลาดซื้อ อย่าหลงเชื่อโฆษณาเพียงเพราะสินค้าราคาถูก เพราะบางครั้งของถูกอาจจะไม่ใช่ของดีเสมอไป และควรระมัดระวังกลโกงในการซื้อของออนไลน์เอาไว้ด้วย
หากตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงผ่านการซื้อขายออนไลน์ สามารถคลิกแจ้ง
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) 
ที่อยู่ : ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
ข้อมูลการติดต่อ : โทรศัพท์ 1166
ลิงค์หน่วยงาน : http://www.ocpb.go.th/
อีเมลติดต่อ : consumer@ocpb.go.th