หนีไม่รอด! ปคม.จับสึกหลวงพี่ หนีคดี แชร์ยูฟัน หลบมาบวชที่สระแก้ว

หนีไม่รอด! ปคม.จับสึกหลวงพี่ หนีคดี แชร์ยูฟัน หลบมาบวชที่สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2562 พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม.

สั่งการให้ พ.ต.ต.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยตำรวจ ปคม. จับกุม นายพุฒิพงศ์ รุจิพันธ์โภคิน อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1407/2558 ลงวันที่ 23 มิ.ย.2562

ในฐานความผิด “ร่วมกันไม่ปฎิบัติตามแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ได้ยื่นไว้กับนายทะเบียน,ร่วมกันชักชวนบุคคลให้เข้าเครื่อข่ายในธุรกิจขายตรงโดยให้ผลตอบแทนจากการหาสมาชิกและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

โดยจับกุมได้ที่บริเวณสถานปฎิบัติธรรมพุทธรักษา เลขที่226 หมู่6 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ภายหลังเจ้าตัวหนีมาบวช

สืบเนื่องจากราวปี 2558 ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกันชักชวนผู้เสียหายเข้าร่วมในเครือข่ายในการประกอบธุรกิจ แชร์ยูฟัน ซึ่งมีน้ำผลไม้-สมุนไพร-เครื่องสำอางผิวหน้า โดยทำให้หลงเชื่อว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย

แต่ภายหลังได้หลอกลวงขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่เรียกว่ายูโทเคน (U–TOKEN) โดยอ้างว่าได้รับความนิยมและยอมรับในประเทศออสเตรเลีย-มาเลเซีย ต่อมาไม่สามารถปันผลค่าตอบแทนให้กับสมาชิกได้

โดยในกรณีของนายพุฒิพงศ์ก็ตกเป็นผู้เสียหายและเป็นผู้ต้องหาอีกทางหนึ่ง และได้รับผลกระทบจากแชร์ยูฟันถึงขั้นหมดตัว จึงหนีมาบวชที่สำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าว กระทั่งถูกจับกุม

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นวงกว้าง และมีมูลค่าความเสียหายจำนวนเงินหลายหมื่นล้านบาท โดยมีผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 164 คน

มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งผู้กระทำผิดบางส่วนถูกจับดำเนินคดี และบางส่วนยังอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อหา ก่อนทำการอายัดตัวตามข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศีรธรรมราช ที่ 394/2560 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2560, ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 97/2561 ลงวันที่ 7 มี.ค. 2561, และศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่285/2562 ลงวันที่ 6 ก.ย. 2562