Network Marketing ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ใช่แชร์ลูกโซ่หรือไม่ ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing (MLM) คือ?
ธุรกิจเครือข่าย Multi-level Marketing MLM
ความรู้ ข้อมูลธุรกิจเครือข่าย Network Marketing ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ใช่แชร์ลูกโซ่หรือไม่
ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing (MLM) คือหนึ่งในระบบการเคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดและก็ถูกเข้าใจผิดมากที่สุดเช่นเดียวกัน ปัจจุบันธุรกิจเครือข่ายถูกเชื่อว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ สินค้าและบริการมูลค่ามากกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ จะถูกเคลื่อนผ่านบริษัทธุรกิจเครือข่ายทุกๆ ปี
ธุรกิจเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing หรือ MLM คืออะไร
Marketing หรือ การตลาด หมายถึง การเคลื่อนสินค้าหรือบริการ จากผู้ผลิตไปถึงผู้บริโภค
Multi-Level อ้างถึง ระบบในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับบุคคลตามลำดับชั้น
Multi หมายถึง มากกว่าหนึ่ง
Level หมายถึง ระดับหรือรุ่น
คำว่า MLM นี้ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายเสียจนพวกแชร์ลูกโซ่ที่ผิดกฎหมาย ได้พยายามทำตัวเองให้เหมือนกับธุรกิจเครือข่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างภาพในแง่ลบอย่างร้ายกาจและไร้เหตุผล ให้กับบริษัทธุรกิจเครือข่ายรุ่นใหม่ๆ
วิธีการเคลื่อนสินค้าและบริการ
Retailing หรือ การขายปลีก เช่นร้านขายของชำ ร้านขายยา หรือห้างสรรพสินค้า
Direct Sales (Single-Level Marketing) หรือ การขายตรง คือการขายสินค้าให้ผู้บริโภค ผ่านทางเทคนิคการขาย เช่น การไปบ้านผู้คนเพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปขายของให้กับลูกค้า การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง (เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่าย) ยกตัวอย่าง เช่น การขายประกัน เครื่องครัว สารานุกรม สาวขายเอว่อน มิสทีน
Multi-Level Marketing (MLM) หรือ การตลาดเครือข่าย คือสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงไม่ควรสับสนระหว่างสองอย่างข้างบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการขายตรง คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างการตลาดเครือข่ายกับการขายตรง
การสั่งทางไปรษณีย์ การทำการตลาดแบบไปรษณีย์สามารถถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Direct sales ได้
แชร์ลูกโซ่ อย่างที่รู้ๆกันแล้วว่าแชร์ลูกโช่นั้นผิดกฎหมาย เหตุที่ผิดกฎหมายเพราะว่ามันล้มเหลวในการเคลื่อนผลิตภัณฑ์ หรือบริการไปสู่ผู้บริโภคได้ ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่เคลื่อนไหว เราจะไม่เรียกว่า “การตลาด” แชร์ลูกโซ่สามารถใช้คำว่า “เครือข่าย” ได้ แต่ไม่สามารถใช้คำว่า “การตลาด” ได้
ผู้คนคนมากมายส่วนใหญ่มีข้อขัดแย้งในใจ ที่ทำให้เขาไม่เข้าร่วมทำธุรกิจ MLM ก็คือ เขาจำแนกความแตกต่าง ระหว่าง MLM กับ การขายตรง ไม่ออก ไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนมากสับสนเพราะบริษัท MLM ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นอยู่ในสมาคมขายตรง และในบางครั้งคนอาจมองการทำธุรกิจเครือข่ายเหมือนการเดินขายของแบบเคาะประตูบ้าน เพราะว่าเขาเหล่านั้นได้รู้กับกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรก เมื่อคนขายมาเคาะประตูบ้านเพื่อพยายามขายของบางอย่างให้กับเขา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว มันมีลักษณะบางอย่างที่จะแยก MLM ออกจากขายตรง นั่นก็คือ หากคุณอยู่ในธุรกิจ MLM คุณจะอยู่ใน ธุรกิจเพื่อตัวของคุณเอง แต่มิใช่โดยตัวของคุณเอง
การเข้าร่วมธุรกิจคือคุณจะได้ซื้อสินค้าในราคาขายส่ง มีหลายคนตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายเพราะเหตุผลนี้ เมื่อคุณซื้อสินค้าได่ในราคา“ขายส่ง” ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถ“ขายปลีกได้” และคุณจะได้ “กำไร” คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า คุณ “ต้อง” ขายปลีก คุณจึงประสบความสำเร็จ บางบริษัทถึงกับกำหนดยอดขายให้สมาชิกทำยอดตามเป้าเพื่อเขาจะได้รับผลตอบแทน คุณสามารถขายได้ถ้าคุณต้องการขาย แต่หากคุณต้องการสร้างรายได้มหาศาลแล้วหละก็ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้น มาจาก “การสร้างเครือข่าย”
สิ่งสำคัญ: ให้การขายสินค้าเป็นสิ่งที่เกิดตามมาจากการสร้างองค์กรแบบธรรมชาติ คนส่วนใหญ่จะ ล้มเหลว เพราะเขาทำสิ่งที่กลับกัน คือ เขาพยายามสร้างองค์กรโดยการขาย
คำว่า “ขาย” เป็นความคิดทางลบในจิตใจคนทั่วไปถึง 95เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจเครือข่ายคุณไม่จำเป็นต้อง “ขาย” ตามความเข้าใจของโลก แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน ดอน เฟียล่า ได้ให้นิยามคำว่า ขาย ไว้ว่า “การโทรศัพท์ไปหาคนแปลกหน้า เพื่อขายของบางอย่าง ที่เขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้ หรือ ไม่ต้องการ”
ขอย้ำยืนยันอีกครั้ง ผลิตภัณฑ์จะต้องเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่มีใครได้รับเงิน
MLM เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า Network Marketing เมื่อคุณสร้างองค์กร แต่แท้จริงแล้วคุณกำลังสร้างเครือข่ายในการกระจายสินค้าของคุณเอง การขายนั้นยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจเครือข่าย เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายมาจากการที่ผู้จำหน่าย “แบ่งปัน” หรือบอกต่อให้กับเพื่อนและญาติพี่น้องของเขา ไม่ใช่ให้กับคนแปลกหน้า การสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จคุณต้อง “สร้างความสมดุล” คุณต้องอุปถัมภ์ช่วยเหลือ และสอน MLM ให้กับคนอื่น และในกระบวนการนี้เองคุณจะสามารถสร้างลูกค้าได้ ซึ่งก็คือเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องนั่นเอง
ไม่ได้หมายความว่าต้องอุปถัมภ์คนทั้งโลก ด้วยตัวของคุณเอง Network marketing คือการสร้างองค์กรผู้จำหน่ายจำนวนมาก แต่ละคนขายคนละเล็กคนละน้อย ซึ่งดีกว่าการให้คนจำนวนน้อย ขายของปริมาณมาก ๆ
บริษัทธุรกิจเครือข่ายไม่ต้องเสียเงินปริมาณมหาศาลไปกับการโฆษณา เพราะสุดยอดแห่งการโฆษณาก็คือการบอกแบบปากต่อปากของสมาชิก บริษัทเครือข่ายจึงมีเงินมาใช้ในการพัฒนาสินค้าได้มากกว่าบริษัททั่วๆ ไป คุณภาพสินค้าของธุรกิจเครือข่ายจึงมักจะดีกว่าสินค้าคู่แข่งกลุ่มเดียวกันที่พบตามร้านค้าปลีก คุณเพียงแค่แบ่งปันสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงกว่าสินค้ายี่ห้ออื่น ในหมวดเดียวกัน ให้เขาเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อใหม่ ซึ่งคุณได้ทดสอบแล้วว่า มันดีกว่า
Direct Selling กับธุรกิจเครือข่าย MLM
คงเห็นแล้วว่า ธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่การเดินไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขายสินค้าให้กับคนแปลกหน้า ธุรกิจเครือข่ายสอนว่า การที่คุณแบ่งปันคุณภาพสินค้าและบริการให้กับเพื่อนของคุณนี้แหละที่ “การขาย” เข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆ ควรใช้คำว่า “การแบ่งปัน” มากกว่า “การขาย” เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
หากคุณทำงานให้กับบริษัทขายตรง และคุณตัดสินใจลาออกเพราะคุณต้องย้ายไปอาศัยที่ท้องถิ่นอื่น คุณอาจต้องเริ่มทำงานทั้งหมดใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณอยู่ในบริษัท MLM คุณสามารถย้ายไปที่ใดก็ได้ และเริ่มอุปถัมภ์ผู้คนใหม่โดยไม่สูญเสียยอดขายจากองค์กรที่คุณได้สร้างไว้ แล้วในท้องที่เดิม การทำธุรกิจเครือข่ายคุณสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสร้างองค์กร ไม่ใช่แค่การขาย ขอยืนยังอีกครั้ง คุณสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้จากการขายของ แต่คุณสามารถสร้าง “ความมั่งคั่งอย่างถาวร” ได้ด้วยการสร้างองค์กรเท่านั้น
ผู้คนจำนวนมาก ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายเพียงแค่ต้องการมีรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 , 10000 บาท หรือ 20000 บาท ต่อเดือนและเมื่อเขาเอาจริงเอาจังแล้ว ธุรกิจเครือข่ายที่ดี จะสามารถทำให้เขาทำได้ถึงเดือนละ แสน หรือ 3 แสนได้ หรือมากกว่านั้น เขาเหล่านี้ไม่ได้หาเงินจำนวนมากจากการขายของ เขาทำได้จากการสร้างองค์กร
นี้ คือข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย คุณจะสามารถสร้างองค์กรได้อย่างรวดเร็วด้วยโดยการสอนสร้างทรรศนะคติที่ถูก ต้องเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายให้กับผู้มุ่งหวัง หากผู้มุ่งหวังของคุณเข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายนั้นผิดกฎหมาย คุณจะมีปัญหาในการอุปถัมภ์เขาอย่างแน่นอน
คุณต้องชี้แจงและแสดงให้ เขาเห็นถึงข้อเท็จจริง เพื่อขจัดทรรศนะคติหรือความเข้าใจผิดที่ว่า “ธุรกิจเครือข่ายนั้นเหมือนพีระมิด” พีระมิดหรือแชร์ลูกโซ่นั้นสร้างจากยอดลงมาด้านล่าง ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาสู่ธุรกิจเป็นกลุ่มแรกเท่านั้นที่สามารถอยู่ด้านบนของพีระมิด แต่ในในธุรกิจเครือข่าย ทุกๆ คนเริ่มต้นจากด้านล่างและมีโอกาสเท่าๆ กันที่จะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ของตัวเอง ทุกๆ คนสามารถสร้างองค์กรให้ใหญ่กว่าองค์กรของผู้แนะนำของเขาได้หลายเท่าถ้าต้อง การ
ข้อแตกต่างอีกอย่างของธุรกิจ MLM กับการขายตรงนั้นคือการ “ช่วยเหลือ” (Sponsor) ผู้จำหน่ายคนอื่นๆ บางบริษัทอาจใช้คำว่า การหาสมาชิกใหม่ อย่างไรก็ตาม การ Sponsor กับการหาสมาชิกนั้นต่างกันอย่างแน่นอน คุณ Sponsor คนบางคน แล้ว “สอน” ให้เขาทำสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อให้เขาสร้างธุรกิจของเขาเอง การ Sponsor คนบางคน กับการทำให้คนบางคนเซ็นใบสมัครนั้นต่างกันมาก เมื่อคุณ “Sponsor” ใครบางคน คุณกำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยเขาจนกว่าเขาจะประสบความสำเร็จ หากคุณไม่ประสงค์ที่จะให้คำมั่น คุณกำลังทำร้ายเขาถ้าคุณทำให้เขาเซ็นใบสมัคร
ณ จุดนี้ สิ่งที่คุณต้องการคือความตั้งใจจริงที่จะช่วยให้เขาสร้างธุรกิจของตัวเอง การช่วยเหลือคนคนหนึ่งให้สร้างธุรกิจของตัวเอง มันเป็น “ความรับผิดชอบ” ของผู้แนะนำที่ต้องสอนผู้ที่เขานำเข้ามาในธุรกิจให้รู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างใน ธุรกิจ เช่น การสั่งสินค้า การจดบันทึกความคืบหน้าในธุรกิจ การเริ่มต้น วิธีในการฝึกอบรม เพราะการช่วยเหลือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครือข่าย เติบโต เมื่อองค์กรโต คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดคุณจะกลายเป็นเจ้านายของตัวเอง
มีคนกล่าวไว้ว่าภายในยุค 1990s MLM หรือธุรกิจเครือข่าย ได้ทำเงินไปมากกว่า หนึ่งร้อยล้านเหรียญ นี่เป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก!! แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ ธุรกิจเครือข่ายนั้นอยู่รอบๆ ตัวเรามามากกว่า 40 ปีแล้ว บางบริษัทที่เปิดทำการมากว่า 20 ปี กำลังทำเงินมากกว่าร้อยล้านเหรียญต่อปี
แต่ต้องยอมรับว่าในประเทศไทย ธุรกิจลักษณะนี้มีหลายคนไม่ชอบ แต่ในความไม่ชอบนั้น สาเหตุมันเกิดมาจาก "คน" ไม่ได้เกิดมาจากตัว "ธุรกิจ"
หลาย คนเอาธุรกิจเครือข่ายไปทำผิดๆ ทำแบบมือสมัครเล่น ทำแบบโลภหวังรวยทางลัด สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วก็เลิกทำธุรกิจไป ตัวเองเลิกคนเดียวไม่พอ พาคนที่ชวนมาเลิกไปด้วย แล้วก็แอนตี้ธุรกิจนี้ไปด้วยเลย ทั้งๆที่สาเหตุมันมาจาก "คน"
ณ วันนี้ธุรกิจเครือข่ายที่ดี มันจึงต้องมี "ระบบ" และมีการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีระบบที่เราจะต้องทำแบบมืออาชีพ ไม่ใช่ทำเล่นๆ เสริมๆ จะเห็นว่ามีการเปิดคอร์สอบรม/สอนการทำธุรกิจเครือข่าย อย่างเอาจริงเอาจัง มากมาย และมีการแข่งขันสูง ลองศึกษาเชิงลึกดูแล้วจะรู้ว่ามันไม่ธรรมดา