ข่าว ธุรกิจออนไลน์ 100%

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

บุกจับแชร์ลูกโซ่'ไนน์ท๊อปอัพ' ยึด-อายัดทรัพย์มูลค่า200ล้าน..


ดีเอสไอบุกจับแชร์ลูกโซ่ “ไนน์ท๊อปอัพ” รวบกก.ผจก. หลอกเหยื่อบริสุทธิ์ 2 พันคน เสียหายกว่า 500 ล้านบาท ยึด-อายัดทรัพย์ ทั้งที่ดิน รีสอร์ท รถเบนซ์ และเงินรวม 200 ล้านบาท

มื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 2559 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญาเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุม นายมนตรี หรือ จอมพงษ์ มณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไนน์ท๊อปอัพ จำกัด ดำเนินธุรกิจร่วมลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิส รับชำระค่าบริการทุกประเภท และขายสินค้าออนไลน์ มานาน 2 ปี โดยจับกุมได้ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 19/68-69 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากการทำธุรกิจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ โดยการดำเนินการของบริษัทนี้ ได้ชักชวนให้ซื้อหน่วยลงทุน หรือ อาร์พี (RP) หากสามารถเพิ่มผู้ร่วมลงทุนได้จนกระดานแตก ผู้ลงทุนคนเก่าจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนร้อยละ 10 โดยเปิดให้ลงทุนหน่วยละ 1,500-12,500 บาท ในช่วงเดือน ม.ค.–มี.ค. 58 มีกระดานแตกรวม 43 รอบ จึงจูงใจให้สมาชิกทั้งใหม่และเก่านำเงินมาร่วมลงทุนมากขึ้น พร้อมจูงใจว่าเป็นกิจการที่มีผลตอบแทนดี แจกรถเบนซ์ให้สมาชิก ที่ทำยอดได้ตามเป้าไปแล้ว 20 คัน กระทั่งเดือนส.ค.58 เกิดปัญหาบริษัทที่เช่าอยู่บริเวณอาคารพญาไท พลาซ่า ซึ่งหยุดกิจการไปแล้ว ทำให้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับดีเอสไอ โดยระบุว่ามีผู้เสียหายสูญเงิน รายละ 4 แสนบาท มีประมาณ 2,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 500 ล้านบาท

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า หลังรวบรวมหลักฐาน 3 เดือน ดีเอสไอได้ขออนุมัติหมายจับ พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินกรรมการผู้จัดการบริษัทรวม 4 ราย ที่ถูกหมายจับ คือ นายมนตรี นายสิทธิไกร ตลับนาค นายไตรทศ สื่อจินดาภรณ์ และนายธรรมรัตน์ มงคลบวรรัตน์ ซึ่งมีการติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว โดยทรัพย์สินที่ยึดได้มีมูลค่ารวม 200 ล้านบาท ประกอบด้วยที่ดิน อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว รีสอร์ทที่ อ.วังม่วง จ.ลพบุรี เงินในบัญชี และรถเบนซ์ ที่บริษัทให้สมาชิก 20 คัน สำหรับกรรมการบริษัทไนน์ท๊อปอัพฯ ทั้งหมด ล่าสุด แยกตัวมาเปิดบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท ออริจินัล เนตเวิร์ค ซึ่งประกอบกิจการในลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่า บริษัทใหม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว และอยู่ระหว่างขอเพิ่มเติมสินค้า หลังจากนี้ดีเอสไอจะจับตาว่าแผนการตลาดบริษัทใหม่ดำเนินกิจการตามแผนที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามแผนก็อาจเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ โดยขอเตือนไปยังผู้ที่จะร่วมลงทุนให้ระมัดระวังด้วย

ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กล่าวต่อว่า แม้ว่าบริษัทไนน์ท๊อปอัพ และบริษัท ออริจินัลฯ จะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) แต่แผนการตลาดที่มีลักษณะระดมสมาชิกให้เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน เป็นแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากคำนวณผลตอบแทนตามแผนการตลาด จะพบว่าสามารถจ่ายปันผลได้สูงสุดถึง 200% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเกินจริง โดยสมาชิกบริษัทไนน์ท๊อปอัพ มีสมาชิก 40,000 ราย โอนย้ายมาบริษัท ออริจินัล 30,000 ราย ส่วนที่เหลือได้เข้าแจ้งความกับดีเอสไอแล้ว

ด้านนายมนตรี กล่าวว่า ยอมรับว่าบริษัทเดิม มีปัญหาการบริหารภายใน ทำให้ไม่สามารถเข้าระบบได้ จึงได้เปิดบริษัทใหม่เพื่อโอนสมาชิกเดิมมายังบริษัทใหม่ หรือเรียกว่า เป็นการคืนสิทธิให้สมาชิก โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ยืนยันว่าบริษัทดำเนินธุรกิจขายแฟรนไชส์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิส ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แต่มีกำหนดปันผลคล้ายสหกรณ์ ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับผลประกอบการของสมาชิกแต่ละราย ซึ่งจะได้ปันผลตั้งแต่ 1-100% กำไรที่นำมาปันผลให้สมาชิกมาจากส่วนต่างค่าชำระบิล บิลละ 3 บาท ส่วนรถเบนซ์ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้แจก แต่เป็นการทำพิธีมอบรถเบนซ์ให้กับสมาชิกที่ทำยอดจนสามารถมีรายได้ไปซื้อรถเบนซ์ได้ ขณะนี้บริษัทใหม่อยู่ระหว่างดำเนินการตกแต่งอาคารที่เช่าไว้ โดยยังไม่มีการเริ่มจ่ายปันผลใดๆ ให้สมาชิก.... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/372726

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น