นานมาแล้วมีการแชร์ต่อเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการคนของชาวจีน โดยแบ่งคนออกเป็น 3 ประเภท เสือ สุนัข และควาย
คน 3 ประเภท
เสือ
โดยธรรมชาติคือนักล่า ไม่ต้องสอนให้เขาล่าเหยื่อ พวกเขาแค่ต้องการพื้นที่สำหรับวิ่ง
ควาย
แข็งแกร่ง และอดทนโดยธรรมชาติ มีพละกำลังเหลือเฟือ แต่คิดเองไม่เป็น ต้องการคนพาเขาไปไถนา
สุนัข
มีความจงรักภักดีสูง คอยอยู่ข้างกายเป็นคนสนิท แต่ไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรมากนัก เพราะดีแต่เห่า บ้างมีความดุร้าย คอยปกป้องผลประโยชน์ให้ได้บ้าง
บริหารคนผิด
คนที่ต้องบริหารคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ สลับการจัดการมั่วไปหมด ใช้เสือไปทำงานอย่างควาย ใช้สุนัขทำงานเสือ และใช้ควายทำงานสุนัข
หรือใช้เสือไปเฝ้าบ้านอย่างสุนัข แล้วไม่เข้าใจทำไมเลี้ยงไม่เคยเชื่องทั้งที่ให้ความสนิทสนมมากเหลือเกินเพราะ เสือ พวกเขาไม่ต้องการคนคอยประคบประหงม แต่ต้องการเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ให้คอยออกล่าอยู่เสมอ ยิ่งท้าทายยิ่งชอบ
พอคุณไม่รู้จักบริหารจัดการเสืออย่างเข้าใจธรรมชาติแท้จริง วันนึงที่เสือผละออกจากอ้อมอก ก็เอาแต่ตัดพ้อว่าเลี้ยงไม่เชื่อง ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเสือนั้นไม่ได้มีไว้ให้เลี้ยงเหมือนสุนัข
พอคุณไม่รู้จักบริหารจัดการเสืออย่างเข้าใจธรรมชาติแท้จริง วันนึงที่เสือผละออกจากอ้อมอก ก็เอาแต่ตัดพ้อว่าเลี้ยงไม่เชื่อง ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเสือนั้นไม่ได้มีไว้ให้เลี้ยงเหมือนสุนัข
สุนัข ให้ออกล่าเหยื่อแบบเสือ เขาก็ทำได้บางโอกาส แต่มันไม่ใช่โดยสัญชาตญาณ จึงไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนอย่างที่เสือทำ สุนัขถนัดดูแลความเป็นอยู่ข้างกายคุณมากกว่า ออกไปวิ่งตามทุ่งหญ้าเพื่อล่าเหยื่อโอชะกลับมา
ให้ควายทำงานสุนัข พวกเขาก็ทำได้ไม่ดี เอาอกเอาใจใครไม่เก่งนัก เพราะไม่มีคนสอน อาจเรียนรู้ได้ตามประสบการณ์ เลียเจ้านายเหมือนสุนัขตัวอื่นได้ แต่มันแข็ง ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
การใช้คนให้เหมาะสมกับธรรมชาติของพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ขงจื๊อสอนเรื่องการใช้คน
ย้อนไปเมื่ออดีตกาล ขงจื๊อ ปราชญ์ชาวจีนเคยกล่าวไว้ว่า การใช้คนนั้นมีหลักอยู่ควรจำแนกให้ออกดังนี้
เมื่อเจอคนฉลาดและมีความขยัน
ควรส่งเสริมคนเหล่านี้ให้เติบใหญ่ จะบริหารบ้านเมืองได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อเจอคนฉลาดแต่ขี้เกียจ
ควรเก็บพวกเขาไว้เป็นที่ปรึกษา เพราะคนเหล่านี้ไม่ถนัดลงมือทำเอง จึงเหมาะกับการให้คำแนะนำอยู่ข้างกายเสียมากกว่า
เมื่อเจอคนโง่และขี้เกียจ
คนเหล่านี้ไม่มีอนาคต แต่ยังพอบังคับไล่จี้ให้ทำงานหลวงได้บ้าง เมื่อพวกเขาโง่ จึงจำเป็นต้องมีคนคอยสั่งสอนอยู่เคียงข้าง
เมื่อเจอคนโง่แต่ขยัน
คนเหล่านี้ควรนำไปตัดหัวเสีย เพราะจะทำให้บ้านเมืองพังพินาศจากความไม่รู้ แล้วยังมีความพยายามในการทำสิ่งที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่ผิดพลาด ให้เจริญงอกเงย ต้องคอยตามล้างตามเช็ดกันอยู่เรื่อยไป
จะเห็นได้ว่าขงจื๊อท่านยกคนฉลาดและขยันให้เหนือสุด จึงเป็นสิ่งที่เราเองควรยกระดับตนเองให้เป็นคนฉลาด เหนือจากคนโง่ที่จะโดนนำไปตัดหัวในท้ายที่สุด
เปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นเสือ และคนฉลาด
ชะตาชีวิตนั้นเราเป็นคนกำหนด หาใช่แต่ฟ้าดินไม่
เมื่อคุณมีความตั้งใจมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองจากสุนัขหรือควาย ไปเป็นเสือแล้ว การลงมือทำอย่างไม่ยอมแพ้เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะอยู่ดี ๆ จะแปลงร่างกลายเป็นเสือได้ทันที เห็นว่าจะเป็นเรื่องเกินจริง แต่ต้องใช้ความพยายามในการพัฒนาตนเองอย่างหนัก หมั่นสร้างสัญชาตญาณแห่งความหิวโหย ดมกลิ่นล่าเหยือขึ้นมา นำเอาอุปนิสัยของเสือมาปรับใช้
อุปนิสัยของเสือ
เสือมีอุปนิสัยเฉพาะตัวดังต่อไปนี้
- มองเห็นโอกาส
- ไล่ล่าอย่างไม่หยุดยั้ง
- ทำอะไรรวดเร็วไม่รีรอ
- ไม่เคยปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
- ทำสิ่งที่ควรทำไม่ต้องรอให้ใครมาบอก
- สงบนิ่งยามจำเป็น
- หิวกระหายความสำเร็จอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เสือแตกต่างจากสุนัข และควาย คือพวกเขามีความกระตือรือร้นในการล่าสูง ใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่าในเป้าหมาย และมุ่งมั่นทุ่มเทจนกว่าจนกว่าจะสำเร็จ
ก่อนจะเป็นคนฉลาด
ไม่มีใครเกิดมาแล้วฉลาดได้ทันที
จากผลวิจัยพบว่าคนส่วนใหญ่มองความฉลาดจากผลของการกระทำ หาใช่เรื่องของไอคิวแต่เพียงอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณอยากจะพัฒนาตนเองให้เป็นคนฉลาด รอดจากการโดนตัดหัว ควรจะมุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาตนเองอย่างยิ่งที่สุด
แนวทางในการพัฒนาตนเองอย่างคนฉลาด
อย่างแรกเลยที่จะลืมเสียไม่ได้ คือการหมั่นหาความรู้เข้าตัว
ความรู้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ความรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต และความรู้ภายนอกจากการศึกษา
การจะรอแต่ความรู้ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ อาจไม่ทั่วถึงทุกทักษะที่ต้องการ และเสียเวลาโดยใช่เหตุ การหาความรู้จากการศึกษาเอาเองจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ
นักปราชญ์ชอบอ่านหนังสือ
ปราชญ์กับหนังสือเป็นของคู่กัน หากคุณอยากพัฒนาตนเองให้มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น ควรฝึกนิสัยแห่งการอ่านตั้งแต่ตอนนี้ ยิ่งอ่านเยอะยิ่งมีประโยชน์
หากแต่อ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ต้องเป็นคนที่นำความรู้ไปสู่การลงมือทำด้วย
สรุป
หากคุณอยากเป็นเจ้าแห่งทุกสิ่ง ควรฝึกปรือให้ตนเองเป็นอย่างเสือ ที่โลดแล่นได้ในทุกจังหวะ และโอกาส ถึงแม้ตอนนี้ยังเป็นไม่ได้ หรือความสามารถยังไม่ถึง อย่าท้อแท้ แล้วยอมรับชะตาชีวิตตัวเองแต่โดยดี ว่าเป็นได้แค่ ควาย หรือสุนัข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น