👇ลิ้งค์สื่อทุกสำนัก👇
โซเชียลยอดฮิต:- หนังสือพิมพ์-ข่าว : ไทยรัฐ | เดลินิวส์ | มติชน | ผู้จัดการ | กรุงเทพธุรกิจ | คม ชัด ลึก | บ้านเมือง | The Nation | ข่าวสด | ฐานเศรษฐกิจ | บางกอก โพสต์ |ประชาชาติธุรกิจ | สยามกีฬา | แนวหน้า | โพสต์ทูเดย์ | ไทยโพสต์ | สยามดารา | สยามรัฐ | สยามธุรกิจ | บางกอกทูเดย์
- ทีวี-โทรทัศน์ : ช่อง 1 Workpoint | ช่อง 3 | ช่อง 5 | ช่อง 6/36/46 PPTV | ช่อง 7 | ช่อง 8 | ช่อง 9 | ช่อง 29 Mono | ช่อง 31/41 One HD | NBT | Thai PBS | เงินด่วน 30 นาทีถูกกฎหมาย
ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้!!! ภาระค่าใช้จ่ายเยอะ มีหนี้สิน ชีวิตพังตกงาน ไม่มีงานทำ กำลังจะออกจากงานเงินไม่พอใช้ รายได้งานประจำไม่พอใช้จ่ายเบื่องานประจำ ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายไม่ลดลงมีทุนน้อยในการทำธุรกิจอยากขายแต่ไม่อยากสต็อกสินค้าไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจไม่มีที่ปรึกษาระหว่างการทำธุรกิจต้องการขายออนไลน์แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี 🌹 ติดต่อเราเลยค่ะ Tel&Line 089-707-2874 🌹
ข่าว ธุรกิจออนไลน์ 100%
- หน้าแรก
- VDO สำหรับนักธุรกิจMLM
- บริษัทเครือข่ายผิดกฏหมาย
- บทความทั้งหมด
- MEDIAS / ิสื่อทุกสำนัก
- บทความเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ 100%
- Artificial Intelligence (AI)
- MLM คือ?
- ทำธุรกิจออนไลน์ รู้จักคนเจนซี Z หรือยัง?
- ข้อมูลงานออนไลน์ที่ดีที่สุด
- แผนรายได้ล่าสุดของDroprich
- 🌹🌹ข้อมูลเกี่ยวกับ Droprich ดรอปริช ทั้งหมด
- 🌹Contact Us
- คุณคือคนที่ต้องการเรียนรู้ตลอดชีวิตหรือไม่
- เพชฌฆาต ที่จะคอยฆ่าคนที่ทำธุรกิจ ให้ตายอย่างช้าๆ
- 🌹🌹หนังสือที่ต้องอ่าน
- Logistics Vocab
- 🌹🌹สอนใช้ LINE OA.
- 🌺🌺 P&L Family
- 🌺🌺วารีนา(ครูเมย์)
- 🌹🌹 อ่านก่อนสมัคร กดที่นี่
- 🌺 รายละเอียดเพิ่มเติม P&L Family กดที่นี่
- 🌹🌹จิตใต้สำนึก
- 🌹🌹P & L Global lawyer Edit
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565
MEDIAS / สื่อทุกสำนัก
Affiliate คืออะไร? งานออนไลน์ 100% ใข่ไหม?
Affiliate คือ ระบบตัวแทนจำหน่ายค่ะ ง่ายๆคือ เมื่อเราสมัครเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเวบไซต์ที่ให้บริการหรือให้เราเป็นตัวแทนจำหน่าย เมื่อสมัครผ่าน ทางเวบที่เราสมัครจะมีโค๊ต ลิ๊ง สินค้าหรือลิ๊งแนะนำ
ให้เรานำไปโปรโมทในที่ต่างๆ เมื่อมีคนสนใจซื้อสินค้าระบบจะคำนวนค่าคอมมิชชั่นให้เราโดยอัตโนมัต เวบแนะนำคือ ดรอปริช ค่ะซึ่งทำเป็นอาชีพเสริมได้ ใครก็ทำได้ค่ะถ้าลงมือทำ ผลตอบแทนรายได้รับจริงค่ะ
ข้อดีของการทำ Affiliate
1.ไม่ต้องสต๊อคสินค้า ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องต้นทุน ซึ่งถือว่าเป็นการดีมากๆค่ะ
2.แน่นอนค่ะไม่ต้องส่งสินค้าเองค่ะ
3.ไม่มีเวบไซต์ก็ทำได้ค่ะ(เฉพาะบางเวบ) สามารถโพส โปรโมทในที่ต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้มากมายค่ะ
ข้อเสีย คือ
1.คนทำกันเยอะ คู่แข่งเยอะ
2.ไม่รู้เริ่มต้นอย่างไรสำหรับมือใหม่
3.ไม่รู้ว่าจะเลือกทำกับที่ใหนดี
ด้วยเหตุผลที่ดิฉันเจอจากประสบการณ์จริง จึงอยากจะแบ่งปัน แนะนำเพื่อนๆเพื่อไม่ให้เสียเวลาลองถูกลองผิดค่ะ สิ่งที่ดิฉันมาแนะนำวันนี้ขอให้คนที่ยังไม่ค่อยมีความรู้ จงพัฒนาความรู้และพยายามทำให้สำเร็จอย่ายอมแพ้นะคะ เราทำได้ให้คิดว่าเราทำได้ ในที่สุดเราก็จะทำได้ค่ะ
หนังสือที่ต้องอ่าน
อยากให้ทีมของคุณไปไกล ทำยอดขายทะลุเป้า 4 เล่มนี้ ด่วนๆ หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ ทั่วไปจ้า บันเทิงแน่นอน
รีวิว
Lifelong Learners 101: อะไรเป็น ‘ตัวกระตุ้น’ ให้เราเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
พอเข้าสู่โลกการทำงาน แน่นอนว่าเราต้องเคยได้ยินสัก 1 คำในประโยคนี้
‘เราต้องอัปสกิล (Upskill) รีสกิล (Reskill) เป็นคนยืดหยุ่น และมี Growth Mindset!’
องค์กรยุคใหม่พูดถึงคุณลักษณะเหล่านี้อยู่บ่อยๆ และต่างคาดหวังให้พนักงานเป็น “Lifelong Learners” หรือ นักเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อตอบรับกับการพัฒนาอันรวดเร็วของเทคโนโลยีรอบๆ ตัว เราจะเห็นว่าฝ่าย HR สนับสนุนเป็นอย่างยิ่งให้พนักงานเข้าอบรม เข้าฟังสัมมนา หรือลงคอร์สเรียนเพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ
โดยลืมไปว่า.. พนักงานอยากเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จริงหรือเปล่า?
จริงอยู่ว่าทักษะกล่าวมานี้จะกลายเป็น ‘เครื่องมือสำคัญ’ สำหรับพนักงานในอนาคตทั้งอันใกล้และไกล แต่ปัญหาอยู่ตรงที่พนักงานจำใจเรียนรู้ด้วย ‘ความจำเป็น’ และ ‘ความกลัว’ ว่าจะตกงานในอนาคต ไม่ใช่เพราะอยากเรียนรู้จริงๆ
แล้วอะไรล่ะที่เป็นแรงผลักดันให้คนคนหนึ่งกลายเป็น “Lifelong Learners” ?
บทความของจอห์น เฮเกล จาก Harvard Business Review ได้สำรวจทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ว่าอะไรที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้คนคนหนึ่งอยากเรียนรู้ อะไรที่ไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดี และบริษัทจะทำให้พนักงานอยากเรียนรู้ได้อย่างไร
ทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน
ปัจจุบันบริษัทเพิ่มทักษะให้พนักงานอย่างไรบ้าง? แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นการให้ลงคอร์สเรียนทักษะต่างๆ แต่จอห์น เฮเกล ผู้เขียนมองว่า ปัญหาของโปรแกรมพัฒนาทักษะเหล่านี้ คือ มันเพียงแต่หยิบยื่นความรู้ที่มีอยู่แล้วให้ (ซึ่งบนโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ความรู้นั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องเก่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า) ไม่ได้กระตุ้นให้พนักงานอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง
ส่วนอีกปัญหาที่ใหญ่ไม่แพ้กัน คือ ผู้เรียนนั้นไม่ได้อยากเรียนรู้เพื่อตอบความสงสัย แต่เรียนเพราะ ‘กลัว’ ไม่ว่าจะกลัวตกเทรนด์ กลัวโดนหุ่นยนต์แย่งงาน หรือกลัวว่าจะล้าหลังคนอื่นๆ ความกลัวไม่ใช่แรงกระตุ้นในการเรียนที่ดีเลย ลองนึกภาพเราสมัยเป็นนักเรียนดูก็ได้ การต้องจำใจเรียนเพราะถูกขู่ ดุด่า หรือลงโทษนั้นไม่ได้ส่งผลดีในระยะยาว และเราก็รู้เรื่องนั้นดี
หากไม่ใช่ความกลัว อะไรล่ะจะผลักดันให้เราอยากเรียนรู้?
The Passion of the Explorer แรงขับเคลื่อนของนักเรียนรู้ตลอดชีวิต
จากการศึกษาค้นคว้าในพนักงานกว่า 1,300 คนจากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต่างกันถึง 15 ประเภท รายงานพบว่าสิ่งที่กระตุ้นให้คนเราเรียนรู้และเติบโตได้ดี คือ “Passion of the Explorer” หรือแพชชันในการค้นคว้านั่นเอง
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565
Business Academy
Learn ways to build your brand and connect with customers with Business Academy. เรียนรู้วิธีสร้างแบรนด์ของคุณและเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วย Business Academy
Business Academy
โมดูล 1ชนะใจลูกค้า
มาสำรวจโลกของโพสต์ที่น่าดึงดูดใจและมีคุณภาพสูงและทบทวนเคล็ดลับไม่กี่ข้อที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างโพสต์ที่มีประสิทธิภาพกันเถอะ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโพสต์
โพสต์ที่ดีเป็นอย่างไร
โพสต์สามารถช่วยเตือนผู้คนในฟีดเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ หากคุณไม่เคยโพสต์มาก่อน เราขอแนะนำให้คุณสร้างโพสต์ที่แนะนำธุรกิจและข้อเสนอของคุณให้กับผู้ติดตาม
เมื่อคุณพร้อมที่จะสำรวจฟีเจอร์เพิ่มเติม คุณสามารถเพิ่มปุ่ม, รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อทำให้โพสต์ของคุณน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น วิธีนี้สามารถเปิดโอกาสให้กับคุณในการเชื่อมต่อกับลูกค้าเป้าหมายได้
ลองเพิ่มปุ่ม Messenger ลงในโพสต์เพื่อให้ผู้คนทราบว่าคุณพร้อมที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
บอกเล่าเรื่องราวของคุณ
วิธีเริ่มการสนทนาที่ต่อเนื่อง
ทุกธุรกิจมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่การสร้างความไว้วางใจระหว่างธุรกิจและลูกค้านั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจะสำรวจวิธีสร้างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความไว้วางใจและความสงสัยใคร่รู้ไปด้วยกัน
หนึ่งวิธีในการสร้างความเชื่อมั่นคือการแสดงด้านที่เป็นส่วนตัวของธุรกิจคุณ
หัวข้อส่วนหนึ่งสำหรับโพสต์ส่วนตัวมีดังต่อไปนี้
ธุรกิจของคุณเริ่มต้นขึ้นมาอย่างไร
สิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นไม่เหมือนใครในวัฒนธรรมของคุณ
ธุรกิจของคุณเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและการขอรับความช่วยเหลือ
10 สิ่งที่เราควรลงทุนให้มากกว่าเงิน
10 สิ่งที่เราควรลงทุนให้มากกว่าเงิน
ของ Warren Buffett
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ที่ครั้งนึงเคยเป็นชายที่รวยที่สุดในโลก เป็นปรมจารย์ด้านการลงทุน ซึ่งวันนี้บริษัทโฮลดิ้งของบัพเฟตต์ Berkshire Hathaway (เบิร์กไชร์ ฮาธาเวย์) มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ทั้งที่บริษัทอื่นๆในอันดับ 1 - 8 เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งหมด แต่มีบริษัทของบัฟเฟตต์บริษัทเดียวที่เป็นบริษัทที่ทำด้านการลงทุน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นเศรษฐีใจบุญ เป็นผู้บริจาคเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย
วันนี้ เรา มาดูกันว่า หากอยากประสบความสำเร็จอย่างเขา นอกเหนือจากเงินแล้ว มีอะไรบ้างที่ เราควรให้ความสำคัญในการลงทุน จากมุมมองของ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ใน
10 สิ่งที่เราควรลงทุนให้มากกว่าเงิน
1.ลงทุนในตัวเอง (สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด)
หาสิ่งที่คุณรักให้เจอ
จริงๆแล้วบัฟเฟตต์ ชอบเกมการลงทุน ไม่ได้ชอบเงิน หากคุณไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร มีวิธีคิดง่ายๆคือ มีงานอะไรที่ต่อให้รวยล้นฟ้า คุณก็จะทำงานงานนี้ นั่นแหละสิ่งที่คุณรัก
2.ลงทุนในความรู้
บัฟเฟต์ อ่านหนังสือวันละ 5-6 ชม อ่านหนังสือพิมพ์วันละ 5 ฉบับ การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด คือหัวใจสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในวันนี้ แต่แค่การอ่านหนังสือนั้นไม่พอ สิ่งที่ยากกว่าการเรียนรู้จากหนังสือก็คือ การเรียนรู้จากคน เรียนรู้จากหนังสือแล้วคุณต้องเอาไปใช้กับคน
รู้สึกชีวิตไม่ไปถึงไหน ทำไงดี
"จริง ๆ ก็ยินดีกับเพื่อนนะ ที่ก้าวหน้า มีครอบครัวดี ๆ แต่เราล่ะ ยังไปไม่ถึงไหนเลย แอบเครียดและน้อยใจตัวเองลึก ๆ" วันนี้ติน่ามีวิธีแก้มาฝากค่ะ
ข้อแนะนำ 2 ข้อที่คุณทีน่าแนะนำก็คือ
ข้อ 1 โอเคกับสองข้างทางของเรายกตัวอย่างเช่นเราเดินทางไปเชียงใหม่แล้วขับรถไปเราบางครั้งเราก็ต้องการแวะข้างทางอาจจะแวะกินข้าวแวะชื่นชมวิวข้างทางถ่ายรูปแวะพักผ่อนคุยกันกับเพื่อนไม่ใช่นั่งอุดอู้อยู่ในรถไปจนถึงเป้าหมายปลายทางแล้วค่อยพักผ่อนนั้นการที่เราแวะสองข้างทางก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
จำไว้ว่าทุกคนมีเวลาของตัวเองอย่าเอาเวลาของตัวเองไปเปรียบเทียบกับเวลาของคนอื่นเธอคงจะหมายถึงว่าในช่วงเวลาของเราเนี่ยอาจจะมีหลายอย่างเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งจะกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางเร็วเท่ากับเพื่อน
ข้อ 2 คือ เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นโดยเด็ดขาดขีดเส้นใต้เด็ดขาดถ้าสาเหตุที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกอิจฉาเขาหรือรู้สึกไม่ดีเมื่อเราเห็นคนที่เราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565
สิ่งที่ซ่อนไว้ในแผนการจ่ายผลตอบแทน
เทคนิคการปิดการขาย
การปิดการขาย เทคนิคสำคัญของนักขายมืออาชีพ พร้อมหลักสำคัญในการปิดการขาย
MLM Compensation Plans: Maxtrix, Stair Step, Unilevel, and More
นักธุรกิจเครือข่ายระดับมหาเศรษฐีทั้งหลาย ใช้กฎ 5C เพื่อสร้างความสำเร็จ
ว่ากันว่าปราศจาก 5c ไม่มีทางสำเร็จมาดูกันว่า 5c มีอะไรกันบ้างนะคะ
เศรษฐี MLM ทุกคนต้องมีความเชื่อมั่นอย่าแรงกล้าในผลิตภัณฑ์ แผนการตลาด โครงการของพวกเขาและเส้นทางที่พวกเขาเลือกที่จะพาเครือข่ายของเขาเดินไป พวกเขา เชื่อมั่นเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำ ระดับคลั่งไคล้เลยดีเดียว (CLUE!!)
คนเหล่านี้รู้ว่าพวกเขามี บริษัท ที่ดีที่สุดและผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดธุรกิจเครือข่ายที่วิเศษที่สุด และถ้าหากพวกเขาไม่สามารถชักชวนผู้มุ่งหวังได้ พวกเขาจะหงุดหงิดที่สุด ถึงขนาดที่ว่า ถ้ามีผู้ที่ปฏิเสธการชักชวนของเขา เขาจะมองว่า เป็นสัญลักษณ์ ของความโง่ของผู้มุ่งหวังของเขา คือเขาคิดว่าคนที่ปฏิเสธนั้น โง่มากที่มองไม่เห็นโอกาสที่เขาหยิบยื่นให้ มีผู้นำระดับเศรษฐีคนหนึ่งกล่าวออกมาว่า “ผมไม่มีความอดทนพอที่จะทำงานกับคนโง่ ผมดีใจที่เขาปฏิเสธ”
เมื่อมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า พวกเขาจึงได้ใช้พลังทั้งตัวทุ่มลงไปในงานที่เขารักนี้ ทำมันอย่างบ้าคลั่ง
คือการสร้างความรักในสิ่งที่ตนเองทำ แต่ทำมันเหมือนสาดน้ำมันใส่กองเพลิง คือ ทำให้มันร้อนอยู่ตลอดเวลา ความรักที่จะทำให้มันเกิด ทำให้มันสำเร็จเรียกว่า Passion Fire เราเรียกว่ากิเลส On Fire! รักที่จะทำให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
สรุปว่าคุณต้องมี ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเป็นสิ่งแรกในการทำธุรกิจเครือข่าย
เศรษฐี MLM ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาทั้งหมดเป็นนักการสื่อสารชั้นยอด! พวกเขามีความสามารถลึกลับที่สามารถเจรจาส่งผ่านข้อความและความรู้สึก!ของพวกเขาข้ามไปยังผู้ฟังได้เป็นอย่างดีเยี่ยม พวกเขามีพลังในการสื่อสารและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานในคำพูดของพวกเขา
ลาก่อน ไบนารี่ ทางด่วน MLM เส้นทางหายนะ จริง ๆ
และแล้วเมื่อเห็นจังหวะดีพวกเหลือบ แม่ทีมทั้งหลายที่ยังไม่ยอมปล่อยปลาในอีกมือก็แอบเข้าเช็คยอด ดูข้างล่างว่าโตพอหรือยัง..ถ้ายังไม่โตก็ไม่มา ทำกินของเก่าต่อไป แต่ถ้าโตแล้วเห็นขุมทองก็เริ่ม ย้ายรังหากินที่ใหม่
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2565
รู้จัก Gen Z นิยามใหม่ของผู้บริโภคยุคดิจิตอลพร้อม 6 คุณสมบัติที่มาร์เกตเตอร์อย่างคุณต้องจับตามอง
วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565
7 สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากวิถี นกอินทรีย์
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565
คุณต้องการรายได้เร็ว เยอะ หรือว่ามั่นคง แยกออกจากกันให้ชัดๆ
ขอแสดงความยินดีกับอัพไลน์ที่ประสบผลสำเร็จทุกท่านและคารวะ ตัวอย่างความพยายามของท่านในขณะเดียวกันก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความ "หมดแรง" "งุนงง" และ "ท้อแท้" ในองค์กร เนื่องจาก การเติบโตที่รวดเร็ว และความไม่มีประสบการณ์ของ ผู้นำ"มือใหม่" ที่ไม่พร้อมจะนำพาองค์กรของตนเองไปสู่ความสำเร็จ ไม่ให้ความสำคัญของการทำงานเป็น TEAM อย่างแท้จริง ท่านก็อาจเป็นได้แค่ " ม้าตีนต้น"นักธุรกิจเครือข่ายระดับมหาเศรษฐีทั้งหลาย ใช้กฎ 5C เพื่อสร้างความสำเร็จ ท่านมีกี่C??ส่วนเพื่อน ๆ สมาชิกที่ยังเคว้งคว้าง อย่าหยุดเรียนรู้นะคะ ท่านเข้ามาสู่สนามนี้แล้ว อย่าเดินออกไปมือเปล่า จงรู้ให้มากพอ และเล่นกับมันให้ถูกจังหวะ และถูกจุดท่านจะได้อย่างที่ต้องการ
การบ้านที่อยากฝากก็คือ คุณต้องการรายได้เร็ว เยอะ หรือว่ามั่นคง แยกออกจากกันให้ชัดๆ
อย่าคิดเอาทุกอย่างในเวลาเดียว วิเคราะห์ว่าอันไหน สำหรับคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด..
ถ้าคุณบอกว่า ไม่ต้องได้เยอะและเร็วในปีแรก แต่มั่นคงคือได้ เดือนละ แสนแต่ไม่ตกในอีก 3ปี และ retire ได้จริงใน 5ปี แผนการตลาดเดิม ๆ อาจไม่ใช่สำหรับเราคนยุคนี้อีกแล้ว!!!
องค์กรของคุณกำลังประสบปัญหากับการที่ผู้นำ รวยเอา ๆ แต่เรารายได้ สะดุด หรือเปล่า
อ่านและฟังคลิปนี้ของรองประธานดรอปริชใหม่นะคะ
NEW PLAN BY KHUN TAI How to do business การเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างถูกต้อง ต้องทำอย่างไร ดูคลิปที่นี่เลย https://www.youtube.com/watch?v=zaNkByjp33k
แล้วคุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นนะ
ตัวขยันมีผลงานบางทีมากกว่าเทพ มากมาย มียอดขายกระฉูดติดท็อปเท็น แต่เทพ มีขาอ่อนมากเพราะทำครึ่งเดียวได้เงินมากกว่า ได้ถูกเชิญให้ออกไลฟ์ร่วมกับบอส รัว ๆ และดึงดูดคนให้ไหลตามกันอย่างต่อเนื่อง หารู้ไม่ว่ากำลังเป็นแมงเม่าเสียเอง กลับไปฟังการบ้าน คลิปที่ 6 นะคะตามบอสนั่นแหละดีแล้ว!! อย่าหลงคิดว่ากำลังตามแม่ทีมผู้เก่งกาจ!!
ไม่ช้าหายนะก็เกิดเมื่อ ล่างสุดหลุดหายไป เหล่า เทพ ก็ย้ายค่ายอีกครั้งไปผุดใหม่ในค่ายที่ได้ปลั๊กดักเอาไว้แล้ว วงจรอุบาศก์ก็เกิดขึ้นอีกอย่างไร้วันจบสิ้น
ท่านเลือกทำธุรกิจเครือข่ายที่ดีที่สุดแล้วค่ะ อย่าเป็นกบเลือกนาย หากไม่แน่ใจว่าดียังไง ดิฉันขอแนะนำให้อ่าน ..... แล้วเลิกสงสัย หยุดค้นหา สิ่งที่ท่านมีอยู่แล้ว ท่านกำลังเสียเวลากับการตัดสินใจอยู่นะคะ ท่านตัดสินใจ มาหลายครั้งแล้ว จึงมายืนอยู่ตรงนี้
"ตัดสินใจ ฟัง ตัดสินใจศึกษาตัดสินใจสมัคร เหลือ ตัดสินใจทำ(อย่างหนัก) และตัดสินใจสำเร็จ"
ข้างล่างนี้คือการสอนงานที่ประธานบริษัทDroprich ผู้ช่ำชองในแผนการตลาดทุกรูปแบบ ท่านแนะนำ ในบางครั้ง ในชีวิตคนเราก็ ต้อง "ลงมือทำ โดยไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด" จงเรียนรู้ที่จะ Trust หรือไว้วางใจ คนที่เรา นับถือและ ตริตรองด้วยเหตุผลแล้วว่า " ไว้ใจได้ มีคุณธรรม และมีนโยบายชัดเจน เห็นแก่ส่วนรวม ฟัง CEO ของ Droprichที่นี่ค่ะ
วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2565
บทความเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์
สาเหตุที่คุณล้มเหลวในธุรกิจออนไลน์
6 วิธีเพิ่มจำนวนคนเห็นโพสต์แบบไม่ต้องเสียเงิน
กลโกงในการหลอกขายสินค้าออนไลน์
ทำอาชีพเสริมอย่างไรให้ร่ำรวย
หากยังไม่ได้ดูคลิปนี้
ทำอาชีพเสริมยังไง? ให้ร่ำรวย
“ยุคนี้งานเดียวไม่พอ” เป็นคำพูดที่ใครหลายคนบอกกัน แม้แต่เราเองก็พยายามบอกคนใกล้ตัวอยู่เสมอ ว่าคนเราควรคิดและมองหา งานที่ 2 อาชีพที่ 3 และธุรกิจที่ 4 อยู่เสมอ
ไม่ใช่แค่เพื่อให้มั่งคั่งเร็ว เพราะนั่นอีกนานกว่าจะเห็นผล แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีสูญเสียรายได้หลักไป อันนี้สิเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีใครรู้ ถ้ารายได้หลักหายไป แต่ยังมีรายได้เสริมประคองรายจ่ายเอาไว้ ชีวิตก็ยังเดินต่อไปได้ การเงินไม่สะดุด
อย่างไรก็ดี แม้ยุคนี้จะเป็นยุคแห่งการสร้างอาชีพเสริม แต่หลายคนพอมีอาชีพเสริมเข้าจริง กลับไม่ได้มั่งคั่งหรือมั่นคงอย่างที่คิดเอาไว้ แย่หนักกว่านั้นคือ หลายคนยิ่งทำหลายอย่าง “ยิ่งจนลง” ไม่ได้รวยขึ้น ทั้งที่ก็ขายดี มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ
ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเดาคำตอบได้
ใช่ค่ะ! เพราะบริหารเงินรายได้ไม่เป็นนั่นเอง
จะว่าไปแล้วในบรรดารายได้ทั้งหลาย “เงินเดือน” เป็นรายได้ที่จัดการได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นเงินสุทธิให้เรานำไปกินใช้ได้เลย แค่กินใช้ให้มีเก็บมีออมทุกเดือน แบบนี้ก็ถือว่าบริหารเงินเดือนพอใช้ได้แล้ว
แต่กับรายได้เสริมไม่เหมือนกันค่ะ รายได้หรือยอดขายของเรา ไม่สามารถนำมากินใช้ส่วนตัวได้ทันที เพราะในยอดขายนั้นมี “ต้นทุน” ของสินค้าและบริการของเรารวมอยู่ด้วย ที่ถูกจึงต้องบันทึกต้นทุนและค่าใช้จ่าย หักจากยอดขาย เหลือเป็นกำไรเท่าไหร่ถึงจะนำมากินใช้ได้
ทั้งนี้เราสามารถวัดกันได้ง่ายๆ เลยว่า ใครทำอาชีพเสริมแล้วการเงินก้าวหน้าหรือทำมานานแล้วชีวิตไม่ไปไหน ด้วยคำถามง่ายๆ ไม่กี่คำถาม ดังนี้
วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
Work from home อนาคตของการทำงาน
ถ้าพูดถึงเรื่องของการทำงานแบบ Work from home เราเชื่อว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาหลายบริษัท น่าจะได้ลองทำกันมาบ้างแล้ว และก็น่าจะมีหลายบริษัทที่ประกาศให้เรื่องของการทำงานแบบ Work from home ได้กลายเป็นนโยบายหลักในการทำงานไปแล้ว แต่ก็น่าจะมีอีกหลายบริษัทเช่นกัน ที่หัวหน้า หรือผู้บริหาร ยังคาใจไม่มั่นใจว่าการทำงานแบบ Remote มันจะดีจริง ๆ เหรอ แล้วมันจะเป็นอนาคตของการทำงานต่อจากนี้จริง ๆ ใช่ไหม
วันนี้เลยอยากจะมาพูดถึงเรื่องของการทำงานแบบ Work from home กันว่า มันมีข้อดี หรือข้อเสียอะไรบ้าง
ประโยชน์ 4 ข้อที่เกิดขึ้นจากการ Work from home
1. Productivity มากขึ้น:
Work from home สามารถเพิ่ม Productivity ให้กับคนทำงานได้จริง ๆ ไหม จนถึง ณ ตอนนี้ เราก็ยังเชื่อว่าต้องมีผู้บริหาร หรือหัวหน้าอีกหลายคน ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะให้พนักงาน ทีมงาน ลองเริ่มทำงานแบบ work from home ดูบ้างดีไหม อาจจะเพราะกลัวพนักงานจะอู้บ้าง กลัวไม่ทำงานบ้าง กลัวงานไม่เสร็จบ้าง กังวลว่าเขาจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งานบ้าง หรือพูดรวม ๆ ก็คือ กลัวว่า Productivity ของพนักงานนั้นจะลดลง
เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่เป็นความจริง และแทบจะออกมาในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ
ในปี 2019 Airtasker มีการทำสำรวจคนที่ทำงานเต็มเวลา 1,004 คน ในสหรัฐฯ เกี่ยวกับ Productivity ของพวกเขา โดยใน 1,004 คนนั้น มี 505 คนที่ทำงานแบบ Remote โดยทีมที่ทำการศึกษาพบว่าคนที่ทำงานแบบ Remote นั้นทำงานมากกว่า คนที่ทำงานอยู่ออฟฟิศเป็นหลัก อยู่ที่ 1.4 วัน ต่อเดือน หรือ 16.8 วันต่อปี
ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับงานวิจัยในปี 2015 จากมหาวิทยาลัย Stanford ที่ทำการศึกษาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน Call Center 16,000 คน ในบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวจีน พบว่ากลุ่มพนักงานที่ทำงานแบบ Work from home สามารถเพิ่ม Productivity ในการทำงานได้มากถึง 14%
และเช่นกันในการศึกษาของ MindMetre พบว่า 56% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รู้สึกว่าการการทำงานแบบ Remote ช่วยให้พวกเขามีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น ในขณะที่ 53% บอกมันสามารถช่วยเพิ่ม Productivity ให้กับพวกเขาได้
2. มีความพึงพอใจในงานมากขึ้น:
จากรายงานการสำรวจของ Morar Consulting’s ในปี 2017 เผยว่า 38% ของแรงงานในสหรัฐฯ ที่มีการ Work from home อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน จะมีความพึงพอใจในการทำงานในระดับที่สูงกว่า คนทำงานที่ไม่ได้รับสิทธิ์นี้
3. ทำให้อัตราการ turnover ลดลง:
ข้อมูลจากงานวิจัยของ UK Government’s Department for Business Innovation & Skills รายงานว่า ความยืดหยุ่น ในการทำงานมีผลทำให้อัตราการลาออกของพนักงานนั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
และจากงานการศึกษาของมหาวิทยาลัย Stanford ที่ทำร่วมกับ Ctrip นั้นก็ยังแสดงให้เห็นว่าการทำงานที่ยืดหยุ่น หรือการทำงานแบบ Remote สามารถช่วยลดความอยากลาออกของพนักงานได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก
4. สามารถลดต้นทุนของ Office หรือสำนักงานลงได้:
การที่พนักงานสามารถทำงานแบบ Remote ได้จะทำให้ออฟฟิศขนาดใหญ่มีความจำเป็นลดลง สำหรับคนที่ทำธุรกิจจะรู้และเข้าใจดีว่า ค่าเช่าออฟฟิศหรือสำนักงานนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นทุนที่ค่อนข้างสูงทีเดียว
ทำให้ตอนนี้มีบริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งเริ่มปรับเปลี่ยนออฟฟิศ หรือสำนักงานให้มีความเป็น hot desk มากขึ้น (โต๊ะทำงานแบบหมุนเวียน) แต่แน่นอนว่ายังคงมีห้องประชุมต่าง ๆ ไว้ให้ใช้
คือ มีการเปลี่ยนพื้นที่ทำงานให้มีความเป็น Co-Working Space มากขึ้น พร้อม ๆ กับลดใช้พื้นที่อาคารสำนักงานลง
พอพูดถึงข้อดี หรือประโยชน์ที่ได้รับกันแล้ว เราก็ต้องมาดูฝั่งของข้อเสียกันบ้าง
วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
Dropship ดรอปชิป คืออะไร
Dropship กับตัวแทน อาจจะดูไม่ได้ต่างกัน เพราะมันก็คือ ตัวแทนเค้า ถูกต้องมั้ยคะ แต่สิ่งที่มันดีกว่าก็คือ ถ้าเราทำเป็น มันลดความเสี่ยงกว่าการเป็นตัวแทนเฉยๆ เยอะเลยนะ เพราะหลักๆ เลยคือ เราจะได้เวลากลับมา เพราะไม่ต้องแพ็คของส่งของ (ที่เรียกว่าชิปปิ้ง) ลองคิดดูสิว่า ถ้าเราต้องมานั่งแพ็คของวันละ 1000 ชิ้น ทั้งชีวิตก็เอาไปทิ้งที่ไปรษณีย์แล้ว ข้อดีอีกอย่างก็คือ เราไม่ต้องทำสต็อค คิดดูว่า ถ้าเราต้องมาลงทุนซื้อมาสต็อคของเป็นหมื่นเป็นแสน แล้วขายไม่ออกเลย ทำไงดี? นั่นแหละค่ะ ถึงทำให้ Dropship น่าสนใจ
แต่ใช่ว่าโมเดลดี แล้ว คนทำจะได้ดี มีผลลัพท์รายได้สูง ๆ กันหมดทุกคน ทุกบริษัทนะคะ เพราะโมเดลนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือของสองฝ่าย คือ
1. ฝ่ายตัวแทน ต้องสร้างภาพลักษณ์ นำเสนอสินค้าได้ดี
2. ฝ่ายเจ้าของ ก็ต้องซัพพอร์ตตัวแทนเป็นอย่างดี ส่งของเร็ว มีของตลอด ของมีคุณภาพ แข่งกับชาวบ้านได้ ตอบคำถามตลอด ไม่หนี ไม่เบี้ยว ซึ่งหายากมากกกกกก
เราทำอยู่จ้า คือถ้าใครสนใจเรื่อง Dropship เราตอบคำถามให้ได้ จริงๆ แล้ว งานนี้มันเหมือนกับขุมทรัพย์ ส่วนใหญ่เค้าไม่มาบอกกันหรอกค่ะ เพราะก็จะกลายเป็นคู่แข่งกันหมด แต่คนทำได้ ก็รวยนะ รวยกว่าตัวแทนทั่วไปตามเฟสบุ๊คเลยล่ะ แถมอิสระกว่าด้วย ใครสนใจด้านนี้จริงๆ ก็หลังไมค์มาคุยกันละกันนะคะ ติดต่อเราได้ที่นี่ https://mysocialnetwork2020.blogspot.com/2020/03/contact-us.html
วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
สำหรับคนที่ Anti ระบบขายตรง และแชร์ลูกโซ่ คิดว่าดรอปริชหลอกลวง
สำหรับคนที่เคยทำ ระบบขายตรง และDropshipมาหลายตัว อย่างเรา เรารักDroprich เลยล่ะค่ะ
มาเจอ เพราะหาสินค้ามาแก้ปัญหาท้องผูกเลยได้รู้จักระบบ Dropship ที่วิเศษมากกว่าทุกDropship ที่เคยทำมาก่อน
หลังจากศึกษา เรามองว่า เป็นระบบที่สร้างโอกาสให้คนไม่มีโอกาส หรือเห็นโอกาส ได้สร้างรายได้ จริง ๆ พิสูจน์ได้ทันทีที่ลงมือทำ สร้างความมั่นคงให้ชีวิตตัวเองได้ โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่นเลย ไม่ใช่การขายฝัน ไม่ได้หลอกขายของ ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ทำจริงจัง ก็ รวยจริงจัง อยู่ที่การเรียนรู้และการฝึกฝน เราได้พัฒนาตัวเอง ได้ให้โอกาสคนอื่น มีแต่ได้กับได้
เรื่องเดียวที่เราต้องลงทุน คือ เวลาค่ะ เราลองทำ droprich 1 อาทิตย์ ลงทุนซื้อสินค้า(ไฟเบอร์) กล่องเดียว 1200 บาทจากนั้นเรียนรู้และแบ่งปัน แชร์ลิ้งค์ให้เพื่อน 2-3 คน ได้รับรายได้ 4920 บาท
เราแค่แนะนำ บอกต่อโอกาส ให้คนที่เค้าลำบากได้มีวิธีหารายได้ยิ่งเราให้เราก็ยิ่งได้ค่ะ ง่ายกว่านี้ไม่มีแล้ว droprich ให้เราลงทุนแค่เวลาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ไม่น่าจะเรียกว่า หลอกลวงนะคะ
สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ ดูถูกตัวเอง และดูถูกคนอื่นค่ะ สงสัยถามได้นะคะ ยินดีแนะนำค่ะ
ถ้าโชคดี ได้เจอแล้ว ก็ให้โอกาสตัวเองเถอะค่ะ
วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565
เรื่องของกฏทวีคูณ คนที่เข้าใจแผนธุรกิจแบบไบนารี่อย่างถ่องแท้เท่านั้นจึงจะเข้าใจ และรู้ว่ามันไม่ใช่ความลับทางธุรกิจอะไรเลย
=============================================
อีก 1 ประโยคค่ะ.. " การที่เราทำงานใดไม่สำเร็จไม่ได้หมายความว่างานนั้น ๆ ไม่ดี หรือไม่มีประสิทธิภาพ
การสาดเสียเทเสียใส่ธุรกิจที่เราเคยทำ เหมือนคุณเทสิ่งลบไปสู่จิตใจของคุณทีละเล็กทีละน้อย
แต่กลายเป็นน้ำเน่าสีดำ ๆ ....
เราต้องทำอย่างมีสปิริต เพราะมันเหมือนเรามีเชิงบวกใส่สมองเราไว้ประมาณนี้อ่ะค่ะ
ดิฉันย้ำเพื่อน ๆ นะ ทุกสิ่งที่เราทำยามลืมตามันมีพลังน้อยมากกับจิตใต้สำนึกหลังหลับ..
แพ้เราก็เป็นพระ ชนะเราก็ยังเป็นพระอยู่
เพิ่มพลังสมองเป็น 10 เท่า เรียนรู้ได้เร็ว
2. หัดผ่อนคลายทั้งกายและใจ จากการทดลองพบว่า คนเราจะเรียนรู้ได้เร็วเมื่ออยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ดังนั้น เราควรรู้จักผ่อนคลายจิตใจบ้าง เช่น ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ หรือ การสวดมนต์ อาจกล่าวได้ว่า การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ช่วยยับยั้งความคิด Negative ได้ชั่วคราว
บทความทั้งหมด
นาโนเทคโนโลยีคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
บทความทั่วไป
รู้มั๊ยความหมายของคำว่า โชคดี ที่แท้คืออะไร
แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร
เรื่องของคน
นิทานเรื่องนี้ดีนะ...ขอมอบให้คนที่ยังติดยึด
มันอยู่ที่"วิธีคิด" จริง ๆ
คุณคิดแบบ"ผึ้ง"หรือ"แมลงวัน"
8 ข้อคิดดี ๆ ฝึกหาความสุข
คุณมีเงิน แต่คุณมีค่าไหม?
โลกนี้ที่อยู่รอดได้ ก็เพราะเหตุนี้
เพิ่มพลังสมองเป็น 10 เท่า เรียนรู้ได้เร็ว
เก็บตกมาจาก Facebook...เอาไว้สอนลูกหลานนะ
อย่ารอให้แตะ 60 แล้วค่อยเตรียมตัวเกษียณ
กุศโลบาย
ใครๆ ก็เป็นโค้ชได้
จัดการกับความกลัวด้วย “ความกลัว (F-E-A-R)
TEAM
เหตุแห่งการปฏิเสธ ธุรกิจขายตรง
3 วิธีชวนคนทำธุรกิจเครือข่าย ที่ทำแล้ว สร้างผลลัพธ์ได้ทันที!
26 คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่จากวอร์เรน บัฟเฟต
จุดแข็ง-จุดอ่อน-เบื้องต้น ของประเทศต่างๆใน AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
7 สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากวิถี นกอินทรีย์